25 ร้านเนื้อวากิว (Wagyu) พรีเมียมในกรุงเทพฯ ที่สายเนื้อต้องปักหมุด

11.11.2025 (Updated: 12.11.2025)
25 ร้านเนื้อวากิว (Wagyu) พรีเมียมในกรุงเทพฯ ที่สายเนื้อต้องปักหมุด

ถ้าพูดถึงสุดยอดของเนื้อวัว จะไม่พูดถึงเนื้อว่ากิว (Wagyu) ไม่ได้เลย และถ้าอยากทานเนื้อเกรดพรีเมียม A5/A4 ที่นุ่มละมุนจนละลายในปาก เหมือนได้วาร์ปไปทานถึงญี่ปุ่นล่ะก็ จะพลาดบทความนี้ไม่ได้เลย เพราะเราได้รวบรวม 25 ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นเลิศทั่วกรุงเทพฯ ที่จัดเต็มเรื่องเนื้อวากิวคัดสรรจากญี่ปุ่นมาเสิร์ฟจนถึงโต๊ะ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปอ่านกันเลย

1. YAKINIKU HIROSHIMA

สำหรับสายปิ้งย่างที่มองหาความพรีเมียมแต่ยังอยากได้ราคาที่เอื้อมถึง ต้องไม่พลาด ร้าน YAKINIKU HIROSHIMA เลย ร้านนี้ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 42 บรรยากาศดีงาม เหมาะกับการมาปาร์ตี้เนื้อย่างกับแก๊งเพื่อนสุดๆ จุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้ครองใจคนรักเนื้อก็คือความหลากหลายของเมนูเนื้อวัว โดยเฉพาะเนื้อวากิวคุณภาพดี และราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เมนูเด็ดที่ใครมาก็ต้องสั่งคือชุดเนื้อวากิวต่างๆ และเมนูของทานเล่นอย่างมันปูย่างคานิมิโสะ (Kani Miso) ที่เข้มข้นจัดจ้าน นอกจากนี้ ถ้าใครมาฉลองวันเกิด ทางร้านก็มีเซอร์ไพรส์เป็น Kuroge Wagyu Cake เค้กเนื้อวากิวก้อนโตให้ด้วยนะ ราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท

YAKINIKU HIROSHIMA

Business hours

Sukhumvit Road 42, Khlong Toei Subdistrict, Khlong Toei District, Bangkok 10110

address

Every day 11:00 AM–11:00 PM.

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/yakiniku-hiroshima/

2. Genpukan Thonglor

ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ปิ้งย่างแบบต้นตำรับแท้ ๆ ร้านนี้เป็นร้านจากเมืองฮากาตะ อาหารของที่นี่เป็นสูตรลับกว่า 75 ปี มีจุดเด่นสุดว้าวคือซอสหมักเนื้อสูตรพิเศษของทางร้านที่รสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนใคร บอกเลยว่าฟินมาก เนื้อที่นี่เน้นเนื้อคุณภาพดี อย่างเช่น เนื้อวากิวจากวัวญี่ปุ่นพันธุ์ขนดำ (Kuroge Wagyu) จากฮอกไกโดที่คัดมาแล้วว่าลายสวย นุ่มละมุนลิ้น แถมราคายังดีงาม ไม่โหดเท่าร้านอื่นในย่านทองหล่อ ทำให้เราเอ็นจอยเนื้อพรีเมียมได้แบบสบายกระเป๋า นอกจากนี้ บรรยากาศร้านยังสบายๆ ให้ฟีลเหมือนอยู่ญี่ปุ่นจริงๆ แถมยังเปิดบริการตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน ใครหิวปิ้งย่างตอนดึกก็แวะมาได้เลย ร้านตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท 55 ใกล้ BTS ทองหล่อ เดินประมาณ 5 นาที ราคาต่อหัวประมาณ 1,000-3,000 บาท

Genpukan Thonglor

Business hours

Every day 12:00–00:00

address

41, 43 Thonglor Road, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/genpukan-thonglor/

3. Nikusho

สำหรับสายเนื้อตัวจริงที่อยากสัมผัสเนื้อวากิวA5 คุณภาพเยี่ยมจากญี่ปุ่นในราคาน่ารักแบบจับต้องได้ ต้องรู้จัก Nikusho เลย ร้านอาหารญี่ปุ่น สไตล์ยากินิกุร้านนี้โด่งดังในหมู่คนญี่ปุ่นและคนรักเนื้อย่างในไทย เพราะมีเนื้อพรีเมียมเสิร์ฟพร้อมโปรโมชันดีๆ แทบจะตลอดปี จุดเด่นของร้านคือการใช้เตาถ่านย่างแบบดั้งเดิม ทำให้เนื้อย่างมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เนื้อวากิวA5 ลายสวย มันแทรกกำลังดี ย่างแป๊บเดียวก็ละลายในปาก เมนูที่ต้องลองคือชุดเนื้อวากิว A5 ส่วนต่างๆ หรือจะเป็นเซ็ตมื้อกลางวันที่ให้เนื้อวากิวมาหลายส่วนในราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อย บางสาขาก็มีบุฟเฟต์วากิว A5 ให้เลือกด้วยนะ คุ้มสุดๆ ไปเลย ร้านมีหลายสาขา แต่สาขาหลักที่คนรู้จักเยอะคือสุขุมวิท 31 บรรยากาศร้านดี เหมาะสำหรับทั้งการมาทานข้าวแบบสบายๆ ราคาต่อหัวประมาณ 500-1,200 บาท

Nikusho

Business hours

Every day 11:00 AM–10:00 PM.

address

12 Sukhumvit 31, Khlong Toei Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

4. Ginzado

Ginzado ร้านนี้คือสวรรค์ของคนรักเนื้อวากิวคุณภาพระดับพรีเมียม ที่ให้ฟีลเหมือนไปนั่งกินที่ญี่ปุ่น เพราะเจ้าของร้านพิถีพิถันเรื่องคุณภาพเนื้อสุดๆ จุดเด่นที่เป็นที่เลื่องลือของที่นี่คือความคุ้มค่าที่มาพร้อมคุณภาพ เฉพาะในช่วงกลางวันจะมีเซ็ตมื้อกลางวันที่ราคาดีมาก เริ่มต้นแค่หลักร้อยนิดๆ แต่ได้ทั้งเนื้อวากิวคุณภาพเยี่ยม ข้าว ซุป ผัก และกิมจิ ซึ่งเครื่องเคียงเหล่านี้สามารถเติมได้ไม่อั้น ส่วนใครที่มาช่วงเย็นก็สามารถจัดเนื้อ A5 ลายสวยๆ ได้เลย รับรองว่านุ่ม ละมุนลิ้น ละลายในปากสุดๆ ยิ่งได้ย่างบนเตาถ่านหอมๆ ยิ่งฟินคูณสิบ ร้านมีหลายสาขาในกรุงเทพฯ เช่น สุขุมวิท 26 และทองหล่อ บรรยากาศร้านตกแต่งเรียบง่ายสไตล์ญี่ปุ่น และคนญี่ปุ่นแวะเวียนมาทานเยอะมาก เป็นเครื่องการันตีความอร่อยได้เลย ราคาต่อหัวประมาณ 500-1,200 บาท

Ginzado

Business hours

Every day 11:30 AM–11:00 PM.

address

53 1 Sukhumvit 26, Khlong Tan Subdistrict, Khlong Toei District, Bangkok 10110

5. Yuna Japanese Restaurant 2

Yuna Japanese Restaurant หรือเรียกว่า ยูนะ ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่เรื่องคุณภาพวัตถุดิบและความอร่อยไม่เล็กตามขนาด จุดเด่นของร้านนี้คือความหลากหลายของเมนูสไตล์ญี่ปุ่น มีตั้งแต่ซูชิ ซาชิมิสดๆ ไปจนถึงเมนูเนื้อวากิวที่คัดสรรมาอย่างดี เมนูที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายเนื้อคือ สเต็กเนื้อวากิว ที่เนื้อจะถูกหั่นเต๋า ย่างแบบมีเดียมแรร์ เสิร์ฟพร้อมพอนซึรสเปรี้ยวอมหวาน หอมอร่อยแบบสุดๆ ที่สำคัญคือราคานั้นถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับคุณภาพเนื้อที่คุณจะได้รับ และถึงแม้จะเน้นเมนูอะลาคาร์ท แต่เค้าก็มี โอมากาเสะแบบเป็นเซ็ตให้ได้ลองในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายกว่าร้านโอมากาเสะทั่วไป ใครที่ชอบอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ๆ ต้องมาลองที่นี่เลย ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 11/1 ราคาต่อหัวประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป

Yuna Japanese Restaurant 2

Business hours

จ.-ส.11:00–4:30 น.

อา.11:00–2:30 น.

address

171 Room B03, Yuna Restaurants Sukhumvit 11 Klongtoey, Nua, เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

6. Yakiniku EN

Yakiniku EN ร้านยากินิกุที่ซ่อนตัวอยู่ใน Taka Town ซอยสุขุมวิท 39 เดินทางง่าย แถมมีที่จอดรถสะดวกสบาย จุดเด่นของร้านคือการคัดสรรเนื้อวากิวคุณภาพดีมาให้เราย่างเองแบบฟินๆ บนเตาถ่านร้อนๆ เนื้อของที่นี่ได้มาตรฐาน มีลายสวย นุ่มอร่อย รสชาติดีคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป นอกจากนี้ บรรยากาศร้านก็โปร่งโล่งสบาย ตัวร้านเองก็ออกแบบมาอย่างดี ทำให้เวลาปิ้งเนื้อแล้วกลิ่นไม่ค่อยติดตัวมากนัก เป็นอีกหนึ่งร้านที่คนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในย่านนี้รู้จักกันเป็นอย่างดีในเรื่องคุณภาพและความคุ้มค่า ร้านนี้เน้นเมนูแบบอะลาคาร์ท ทำให้เราเลือกสั่งเฉพาะส่วนที่ชอบได้แบบเต็มที่ และนอกจากเนื้อวัวแล้ว ก็ยังมีเนื้อหมูและอาหารทะเลสดๆ ให้เลือกย่างด้วยนะ ราคาต่อหัวประมาณ 500-1,000 บาท

Yakiniku EN

Business hours

Every day 11:00 AM–11:00 PM.

address

No. 18, Room No. A107, Bambini Villa 108, 1st Floor, Soi Atthakawi 1, Khlong Tan Subdistrict, Khlong Toei District, Bangkok 10110

7. Wagyu Yakiniku Ken

Wagyu Yakiniku Ken ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของบุฟเฟต์ปิ้งย่างที่รวมความหรูหราของการทานเนื้อวากิวคุณภาพสูงเข้ากับการกินแบบบุฟเฟต์ได้ลงตัว จุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้โดดเด่นคือการใช้เนื้อวากิวแท้ๆ นำเข้าจากญี่ปุ่นมาให้เลือกหลากหลายส่วน ทั้งแบบอะลาคาร์ท และบุฟเฟต์ เฉพาะคอร์สบุฟเฟต์พรีเมียมที่หลายคนแนะนำว่าคุ้มค่ามาก เพราะได้ทานเนื้อวากิวลายสวยๆ สดใหม่ ย่างบนเตาถ่านที่ช่วยดึงความหอมและรสชาติของเนื้อออกมาได้อย่างเต็มที่ แถมในบุฟเฟต์ยังมีซีฟู้ดสดๆ ให้เลือกสั่งมาตัดเลี่ยนได้อีกด้วย บรรยากาศร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมญี่ปุ่น มีความเป็นส่วนตัวสูง เพราะมีห้องส่วนตัวให้บริการ ทำให้เหมาะกับการมาทานเป็นกลุ่ม หรือมาเดทแบบโรแมนติก ทำเลก็สะดวก อยู่ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มีที่จอดรถสะดวกสบายอีกด้วย ร้านตั้งอยู่ที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ราคาต่อหัวสำหรับบุฟเฟต์เริ่มต้นประมาณ 999 บาท ถึง 1,461 บาท

Wagyu Yakiniku Ken

Business hours

Every day 17:00–23:00

address

1938 ถ. เพชรบุรีตัดใหม่ Bangkapi, เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

8. Yakiniku Sudo Bangkok

ร้านนี้ไม่ได้เป็นแค่ร้านยากินิกุธรรมดา แต่เป็นยากินิกุสไตล์โอมากาเสะที่ดังมากจากเมืองฟุกุโอกะ ให้ได้นั่งสบายๆ ดูเชฟย่างเนื้อพรีเมียมให้คำต่อคำเลยทีเดียว จุดเด่นของร้านคือการเสิร์ฟเนื้อเป็นคอร์สโอมากาเสะ ทำให้เราได้ลิ้มลองเนื้อหลายส่วนที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ทั้งเนื้อวัวไทยคุณภาพสูง และไฮไลต์อย่างเนื้อวากิว Arita Wagyu จากญี่ปุ่นที่สดใหม่ ไม่ผ่านการแช่แข็ง เชฟจะย่างเนื้อทุกชิ้นด้วยความแม่นยำสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อดึงเอาความหอม นุ่ม และรสชาติแท้ๆ ของเนื้อออกมาให้ได้มากที่สุด เมนูที่คนพูดถึงกันเยอะคือ Chateaubriand Sandwich แซนด์วิชเนื้อสันในที่นุ่มที่สุด และยุกเกะ (Yukke) ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โครงการนิฮอนมาชิ ซอยสุขุมวิท 26 ราคาต่อหัวสำหรับคอร์สโอมากาเสะเริ่มต้นประมาณ 2,200 บาท ขึ้นไป

Yakiniku Sudo Bangkok

Business hours

Every day 11:00 AM–9:00 PM.

address

2nd Floor, Room 206, Nihonmachi Project, No. 115 207 Sukhumvit 26, Khlong Tan Subdistrict, Khlong Toei District, Bangkok 10110

9. Maruryu Ito Yakiniku

ร้านปิ้งย่างแห่งนี้มีชื่อเสียงในการนำเข้าเนื้อโอมิ (Omi Beef ) หนึ่งในสามเนื้อวากิวที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นเนื้อที่หายากสุดๆ เพราะมีการผลิตในปริมาณจำกัดในแต่ละปี จุดเด่นของร้านคือความพรีเมียมของเนื้อโอมิวากิวที่ลายหินอ่อนสวยจัด นุ่มชุ่มฉ่ำจนแทบละลายในปาก เมนูเนื้อพรีเมียมที่พลาดไม่ได้ก็คือ Omi Beef Premium Ribs, Omi Beef Brisket และ Omi Beef Premium Loin ที่รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นเนื้อสุดๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงเด็ดๆ อย่างกิมจิรวมและบิบิมบับที่อร่อยกลมกล่อมไม่แพ้กัน ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 ที่สำคัญคือมักจะมีโปรโมชันราคาพิเศษให้ได้ลิ้มลองเนื้อเกรดพรีเมียมในราคาที่คุ้มค่าอีกด้วย ราคาต่อหัวประมาณ 1,000 บาท ขึ้นไป

Maruryu Ito Yakiniku

Business hours

จ.-พ.,ศ.-อา.17:00–23:00 น., ปิดทุกวันพฤหัสบดี

address

120, 1-2 ซ. สุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

10. NIKU NIKU Japanese BBQ

ร้านนี้มาแรงมากในย่านพระโขนง ด้วยบรรยากาศร้านที่ตกแต่งสวยงาม ให้ความรู้สึกเหมือนวาร์ปไปกินปิ้งย่างที่ญี่ปุ่น จุดเด่นที่ทำให้สายเนื้อกรี๊ดคือโปรโมชันสุดคุ้มของเนื้อวากิวA5 ที่จัดมาให้ในราคาที่เรียกว่าคุ้มแสนคุ้ม โดยเฉพาะเซ็ตเนื้อวากิว A5 ที่จะได้ลองเนื้อหลายส่วนแบบจัดเต็ม เนื้อวากิว A5 ที่นี่คือนำเข้าจากคาโกชิมะ ลายไขมันสวย นุ่มละลายในปากแบบไม่ต้องเคี้ยวเยอะเลย อีกอย่างที่ว้าวมากคือที่นี่มีบริการย่างเนื้อให้ด้วยนะ ทำให้เนื้อทุกชิ้นสุกกำลังดี ไม่ต้องกลัวพลาดเลย นอกจากเนื้อวากิวแล้ว ที่ร้านยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกเพียบ ทั้งเนื้อหมูคุโรบุตะ ซีฟู้ด หรือเมนูทานเล่นอย่างยุกเกะชีสที่เป็นซิกเนเจอร์ก็อร่อยแสงออกปาก ร้านตั้งอยู่ใกล้ BTS พระโขนง ราคาต่อหัวเริ่มต้นประมาณ 599-799 บาทขึ้นไป

NIKU NIKU Japanese BBQ

Business hours

Every day 11:00 AM–12:00 AM

address

1056 ถ. สุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

11. Wagyu Shin Bangkok

ร้านนี้ซ่อนตัวอยู่ในซอยเอกมัย 10 บรรยากาศอบอุ่น เหมือนเป็นบ้านสองชั้นที่ถูกแปลงมาเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น จุดเด่นของร้านคือการใช้ Kobe Wine Beef ซึ่งเป็นวากิวคุณภาพเยี่ยมที่ได้จากวัวที่เลี้ยงด้วยกากไวน์ ทำให้เนื้อมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เมนูเด่นๆ ของที่นี่จะเน้นอาหารญี่ปุ่นที่ใช้เนื้อวากิวเป็นพระเอก เช่น เนื้อโกเบโรสบีฟเย็นที่สไลซ์มาบางๆ หรือแกงกะหรี่เนื้อตุ๋น 6 ชั่วโมง ที่เนื้อนุ่มละลายในปากสุดๆ และยังมีเมนูเทปันยากิ (Teppanyaki) ที่โชว์ลีลาการย่างเนื้อชั้นยอดให้ได้ชมกันด้วย เจ้าของร้านเป็นคนญี่ปุ่น ทำให้รสชาติและบริการได้มาตรฐานญี่ปุ่นแท้ๆ แถมวัตถุดิบก็คัดสรรมาอย่างดี ใครที่อยากลอง Kobe Wine Beef ในหลากหลายเมนู ทั้งแบบโรสบีฟ หรือแบบทอดเทมปุระ ต้องมาลองที่นี่ ราคาต่อหัวประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป

Wagyu Shin Bangkok

Business hours

Every day 17:00–23:00

address

110/17 Ekkamai10, ซอย เอกมัย 10 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

12. Yakiniku Maeda

มาต่อกันที่ร้านยากินิกุที่ขึ้นชื่อเรื่องการคัดสรรเนื้อ Kuroge Wagyu เกรด A4 และ A5 จากเมืองมิยาซากิ เนื้อของที่นี่จะถูกเสิร์ฟพร้อมลายไขมันแทรกสวยงามเหมือนลายหินอ่อนสีชมพู พอเอาลงเตาย่างแล้วจะได้ความหวานฉ่ำ นุ่มละมุนจนละลายในปาก จุดเด่นของที่นี่คือเมนูเนื้อที่หลากหลาย เฉพาะส่วนที่หาทานยากตามร้านทั่วไปอย่างสันคอ หรือเนื้อส่วนไหล่ ที่รสชาติและสัมผัสแตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์ของแต่ละส่วน นอกจากนี้ทางร้านยังมีเซ็ตมื้อกลางวันในมื้อกลางวันที่ราคาดีมากๆ และเซ็ตเนื้อวากิวพรีเมียมชุดใหญ่ที่จัดเต็มเนื้อหลายส่วนในราคาคุ้มค่าด้วย ร้านนี้มีหลายสาขา เช่น ดองกิ มอลล์ ทองหล่อ ราคาต่อหัวสำหรับเซ็ตมื้อกลางวันเริ่มต้นหลักร้อย แต่ถ้าจัดเต็ม Wagyu A4/A5 ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป

Yakiniku Maeda

Business hours

Every day 11:30 AM–10:00 PM.

address

Room No. 307 Donki Mall Thonglor, 3rd Floor, 107 Sukhumvit Soi 63, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

13. Homura Wagyu

ที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านปิ้งย่างธรรมดา แต่เป็นโอมากาเสะเนื้อวากิวสไตล์คัปโปะ ที่นำเสนอเนื้อวากิวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นผ่านฝีมือเชฟระดับเซียน จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือการใช้เนื้อวากิว A5 สดๆ ที่นำเข้ามาทั้งตัวจากเมืองโยเนซาว่า หนึ่งในสามแหล่งเนื้อวัวชั้นดีที่สุดของญี่ปุ่น เนื้อจะถูกเสิร์ฟเป็นคอร์สตามฤดูกาล ผสมผสานกับวัตถุดิบญี่ปุ่นพิเศษอื่นๆ เมนูจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ไฮไลต์ที่ต้องสั่งเพิ่มคือ Wagyu Katsu Sando ที่ใช้เนื้อชาโตบริยอง (Chateaubriand) ชุบแป้งทอดอย่างดี ประกบด้วยขนมปังทำเอง บอกเลยว่านุ่ม ฉ่ำ ละลายในปากจนลืมไม่ลง นอกจากนี้ บรรยากาศร้านยังหรูหรา สง่างามสไตล์ญี่ปุ่น มีเคาน์เตอร์ให้ได้ชมเชฟทำอาหารอย่างใกล้ชิด ราคาต่อหัวสำหรับคอร์สเริ่มต้นประมาณ 4,800++ บาท ถึง 6,800++ บาท

Homura Wagyu

Business hours

อ.-อา.17:30–22:00 น., ปิดทุกวันจันทร์

address

5 7 ถ. เย็นอากาศ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120

14. Shishitei Sukiyaki Shabu

สำหรับใครที่อยากทานเนื้อวากิวคุณภาพสูงแบบละลายในปากในสไตล์สุกี้ยากี้หรือชาบูแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ต้องมาที่ร้าน Shishitei Sukiyaki Shabu ที่นี่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักเนื้อวากิวมิยาซากิ A5 ที่การันตีคุณภาพระดับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดเนื้อในญี่ปุ่นเลย จุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้ไม่เหมือนใครคือเมนูสุกี้ยากี้สไตล์คันไซแบบดั้งเดิม ที่จะมีพนักงานคอยบริการปรุงให้ถึงโต๊ะ เนื้อวากิวA5 ที่นี่มาพร้อมลายหินอ่อนสวยงาม แผ่นใหญ่เต็มคำ จุ่มในน้ำซุปสุกี้ยากี้สูตรลับของร้าน แล้วจิ้มกับไข่ดิบสดๆ บอกเลยว่านุ่มละมุนจนใจละลาย นอกจากสุกี้แล้ว กิวคัตสึ (Gyu Katsu) ก็เป็นอีกเมนูที่หลายคนแนะนำว่าดีงามไม่แพ้กัน ราคาต่ออยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ขึ้นไป

Shishitei Sukiyaki Shabu

Business hours

จ.-ศ. 11:30–13:30 น. และ 17:00–21:30 น.

ส.-อา. 11:30–21:30 น.

address

111/3 ซอย เอกมัย 5 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

15. Sumi Tei Yakiniku

Sumi Tei Yakiniku ร้านยากินิกุร้ที่เป็นตำนานความพรีเมียม เพราะร้านเสิร์ฟ Imperial Wagyu A5 ที่มีใบรับรองคุณภาพทุกจาน จุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้คือที่สุดของสายเนื้อคือคุณภาพเนื้อ A5 ที่ลายไขมันสวยงามเหมือนงานศิลปะ ย่างไฟเบาๆ ก็จะนุ่มฉ่ำ ละลายในปากแทบไม่ต้องเคี้ยวเลย เมนูที่ห้ามพลาดคือ The Imperial Set ที่รวมสุดยอดเนื้อ A5 คัดพิเศษไว้ หรือถ้าใครเป็นสายบุฟเฟต์ ต้องคอยติดตามโปรโมชันพิเศษ เพราะบางครั้งเขามีบุฟเฟต์เนื้อ A5 แบบไม่อั้นออกมาให้จัดหนักด้วย ร้านนี้มีบรรยากาศหรูหราแบบส่วนตัว เน้นการทานแบบอะลาคาร์ทเป็นหลัก แต่ก็มีเมนูอื่นๆ ที่คุณภาพดี เช่น Tokujyo Tan Shio ที่หนึบเด้งอร่อยจนต้องสั่งซ้ำ ร้านตั้งอยู่ที่ J-Avenue ซอยทองหล่อ 13 มีราคาต่อหัวค่อนข้างสูง เมนูอะลาคาร์ทเริ่มต้นที่ 300 บาทขึ้นไป และชุดพรีเมียมอย่าง The Imperial Set ราคาประมาณ 3,680 บาท

Sumi Tei Yakiniku

Business hours

จ.-ศ. 17:00–23:00 น.

ส.-อา. 12:00–23:00 น.

address

Marche Thonglor Room, Marche Thonglor, 2nd Floor Building B 144, Number THL02LS205, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

16. Omi Beef OKAKI

ที่นี่ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เสิร์ฟเนื้อโอมิอย่างเป็นทางการที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลญี่ปุ่น เนื้อโอมิเป็นหนึ่งในสามเนื้อวากิวสุดยอดของญี่ปุ่น และเป็นแบรนด์เนื้อที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วย จุดเด่นที่ทำให้เนื้อโอมิของร้านนี้สุดยอดคือความนุ่มละมุนเป็นพิเศษ ทำให้เนื้อวากิวละลายในปากตั้งแต่คำแรกที่สัมผัส เมนูที่ห้ามพลาดคือ Omi Beef Hamburg ที่หลายคนยกให้เป็นแฮมเบิร์กที่ดีที่สุดเท่าที่เคยกินมา เพราะเนื้อชุ่มฉ่ำ หอมมันวากิว หรือจะลองเมนูย่างที่ย่างเนื้อบางๆ บนเตาแล้วจุ่มไข่ดิบ ก็ฟินแบบสุดๆ ที่นี่พนักงานยังคอยบริการปิ้งย่างให้ด้วย ทำให้เราได้ทานเนื้อที่สุกกำลังดีทุกชิ้น ร้านตั้งอยู่ในโครงการ 9:53 Community Mall ซอยสุขุมวิท 53 ราคาต่อหัวสำหรับมื้อกลางวันเซ็ตมื้อกลางวันเริ่มต้น 500-1,000 บาท ส่วนมื้อเย็นแบบจัดเต็มเนื้อพรีเมียมจะมากกว่า 1,000 บาทขึ้นไป

Omi Beef OKAKI

Business hours

จ.,ศ.-อา. 11:30–14:30 น. และ 17:00–23:30 น.

อ.-พฤ. 11:30–14:00 น. และ 17:00–23:30 น.

address

9:53 Community mall , 124 Sukhumvit Road, ซ. สุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

17. Tamaruya Honten Asoke

Tamaruya Honten คือ ร้านยากินิกุสุดพรีเมียมในตำนานที่ย้ายจากอิเซตันมาเปิดใหม่ที่อโศก และยังคงเป็นขวัญใจของคนรักเนื้อวากิวเหมือนเดิม ร้านนี้โดดเด่นไม่เหมือนใครตรงที่เขานำเสนอศิลปะการกินเนื้อย่างคู่กับวาซาบิสดที่ฝนมาให้ใหม่ๆ ซึ่งจะหอมละมุน ไม่ฉุนขึ้นจมูกเหมือนวาซาบิสำเร็จรูป จุดเด่นของร้านคือการคัดสรรเนื้อวากิวคุณภาพสูง เฉพาะ Kagoshima Premium Wagyu Set ที่ลายสวยน่าทานมาก ตัวเนื้อมีมันแทรกกำลังดี ย่างบนตะแกรงพิเศษที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ทำให้เนื้อสุกทั่วถึงและดึงความหอมหวานออกมาได้อย่างเต็มที่ เมนูที่หลายคนชื่นชอบคือลิ้นวัว ที่ให้เท็กซ์เจอร์หนึบกรุบๆ เคี้ยวเพลินสุดๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูซุปหางวัว และข้าวผัดกระเทียมที่อร่อยลงตัวมากๆ ร้านตั้งอยู่ที่อาคารฟิโก้ เพลส (Fico Place) ราคาต่อหัวประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป

Tamaruya Honten Asoke

Business hours

Mon.-Fri. 11:30 AM–3:30 PM and 5:30 PM–10:30 PM.

Sat.-Sun. 11:30 AM–10:30 PM

address

Figo Place Building, 18/8 Sukhumvit Soi 21, Khlong Toei Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

18. Yakiniku Kemuri Japanese BBQ

ร้านนี้เป็นที่พูดถึงในกลุ่มคนรักเนื้อมากๆ เพราะเขาไม่ได้เน้นแค่ปิ้งย่าง แต่ยังนำเสนอเมนูเนื้อในสไตล์ญี่ปุ่นหลากหลาย ทั้งยากินิกุและสุกี้ยากี้ จุดเด่นที่ทำให้คนรักเนื้อต้องมาที่นี่คือเมนู Wagyu Kemuri Sukuyaki Set หรือชุดสุกี้ยากี้เนื้อวากิว ที่ใช้เนื้อวากิวไทยคุณภาพสูง (Thai Wagyu) รสชาติเข้มข้น หวานฉ่ำ เป็นการเปิดมิติใหม่ของการทานเนื้อวากิวแบบสุกี้ยากี้ที่เข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีชุดข้าวหน้าเนื้อวากิวเคะมุริย่าง (Wagyu Kemuri Yaki-don) ที่เนื้อย่างหอมๆ วางมาบนข้าวญี่ปุ่นเมล็ดสวยๆ ร้านนี้มีบรรยากาศอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่น และได้รับความนิยมจนคิวค่อนข้างยาวในช่วงค่ำ วัตถุดิบหลายตัวส่งตรงจากญี่ปุ่น รวมถึงข้าวโฮชิฮิคาริที่เป็นราชาข้าวเมล็ดสั้นด้วย ที่สำคัญคือราคาเริ่มต้นดีมากเมื่อเทียบกับคุณภาพที่ได้รับ ร้านตั้งอยู่ที่พระราม 6 ราคาต่อหัวเริ่มต้นประมาณ 250-500 บาท สำหรับเมนูข้าวหน้าเนื้อและเซ็ตสุกี้ยากี้ และ 500-1,000 บาท สำหรับเมนูที่พรีเมียมมากขึ้น

Yakiniku Kemuri Japanese BBQ

Business hours

Every day 17:00–1:00 AM.

address

155/8-9 Sukhumvit Soi 11/1, Khlong Toei Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

19. YAKINIKU MASTER SHOUTAIAN

YAKINIKU MASTER SHOUTAIAN ร้าน ยากินิกุที่การันตีความพรีเมียม เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านยากินิกุตัวจริง มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อวัวแต่ละส่วนอย่างลึกซึ้ง จุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้ไม่ธรรมดาคือการเสิร์ฟเนื้อวากิว A5 เกรดหายากอย่าง เนื้อมัตสึซากะ (Matsusaka Wagyu) ซึ่งเป็นหนึ่งในเนื้อที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ที่นี่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบอะลาคาร์ท คอร์สเนื้อสุดหรูหรา และที่ว้าวไปกว่านั้นคือบางช่วงเขามีบุฟเฟต์เนื้อวากิว A5 ให้ได้จัดเต็มแบบไม่อั้นด้วย เมนูซิกเนเจอร์ที่ควรลองคือ Yaki Suki 10 Seconds ที่นำเนื้อไปย่างเร็วๆ แล้วจุ่มไข่ดิบ หรือ Wagyu Sushi ที่ท็อปด้วยอูนิและไข่ปลาแซลมอนสุดหรู ร้านตั้งอยู่ในโรงแรม Nikko Bangkok ทองหล่อ ราคาต่อหัวสำหรับเซ็ตมื้อกลางวันเริ่มต้นประมาณ 890++ บาท ส่วนมื้อเย็นแบบอะลาคาร์ท หรือคอร์สราคาจะมากกว่า 1,000 บาทขึ้นไป

Yakiniku Master Shoutai-an

Business hours

Every day 11:30 AM–3:00 PM and 5:00 PM–10:30 PM.

address

27 Hotel Nikko Bangkok, 3rd Floor, 315 Room, Thonglor Rd., Klongton-Nua, Watthana District, Bangkok 10110

20. Yakiniku Kirabi

ร้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น No.1 Yakiniku & Real Wagyu ในกรุงเทพฯ ที่เน้นการคัดสรรเนื้อวากิวคุณภาพ A5 เกรดพรีเมียมจากวัวดำญี่ปุ่น (Japanese Black Cattle) ตรงจากฟาร์ม เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติและลายหินอ่อนที่สวยงามที่สุด จุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้ครองใจคนรักเนื้อคือคุณภาพของเนื้อวากิวที่ส่งตรงมาถึงร้านสัปดาห์ละหลายครั้ง ทำให้เนื้อมีความสดใหม่มากๆ เมื่อย่างบนเตาถ่านแล้วจะได้กลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใคร และมีความนุ่มละลายในปากแบบสุดๆ เมนูที่พลาดไม่ได้คือเซ็ต Assorted Kuroge Wagyu Karubi ที่รวมเนื้อส่วนพรีเมียมหลายชนิดมาให้ลอง นอกจากนี้ทางร้านยังเน้นเครื่องเคียงและน้ำจิ้มแบบต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ เช่น วาซาบิสด และเกลือหิมาลายันที่นำเข้าพิเศษ ร้านมีหลายสาขาในย่านสุขุมวิท เช่น สุขุมวิท 23 และสุขุมวิท 51 ราคาต่อหัวเริ่มต้นประมาณ 500-1,000 บาท ขึ้นไป

Yakiniku Kirabi

Business hours

จ.-ศ.16:00–23:00 น.

ส.-อา.12:00–23:00 น.

address

46 1 ซ. สุขุมวิท 51 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

21. Wagyu Kurabu By AAN Foods

ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นที่พูดถึงอย่างมากในฐานะร้านบุฟเฟต์ยากินิกุพรีเมียมที่เน้นเนื้อวากิวจากญี่ปุ่น จุดเด่นที่ทำให้ร้านนี้โดนใจคือตัวเลือกบุฟเฟต์ที่มีความคุ้มค่า เฉพาะแพ็กเกจพรีเมียมที่คุณจะได้จัดเต็มเนื้อวากิวเกรด A4 และ A5 หลากหลายส่วนแบบไม่อั้น เนื้อวากิวของที่นี่ลายสวยงาม เนื้อนุ่มละมุน ละลายในปาก แถมยังมีใบรับรองเป็นผู้จำหน่ายเนื้อ Hitachi Wagyu อย่างเป็นทางการอีกด้วย นอกเหนือจากเนื้อแล้ว บุฟเฟต์ยังมีซีฟู้ดสดๆ เช่น โฮตาเตะ ซูชิ และซาชิมิคุณภาพดีให้เลือกทานได้แบบจุกๆ ตลอด 2 ชั่วโมง ร้านมีบรรยากาศทันสมัย การตกแต่งสวยงามสไตล์ญี่ปุ่น พนักงานบริการดีเยี่ยม ถึงแม้จะเป็นร้านบุฟเฟต์แต่คุณภาพเนื้อยังอยู่ในระดับที่น่าประทับใจมากๆ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น G ใน Phoenix Big C ราคาต่อหัวสำหรับบุฟเฟต์เริ่มต้นประมาณ 999-1,461 บาท สำหรับชุดเนื้อวากิว A4 และ A5

Wagyu Kurabu By AAN Foods

Business hours

Every day 10:00 AM–9:00 PM.

address

ชั้น G ห้าง PHENIX Pratunam 604/3 ซอย ราชเทวี แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400

22. YAKINIKU MAEDA MINARI

YAKINIKU MAEDA MINARI ร้านสไตล์ปิ้งย่างร้านนี้ยังคงความพรีเมียมของเนื้อวากิวเกรด A4 และ A5 จากเมืองมิยาซากิไว้ครบถ้วน แต่เพิ่มเติมคือการคอลแลบเมนูใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากขึ้น จุดเด่นของร้านคือคุณภาพเนื้อที่คัดมาอย่างดี เฉพาะเนื้อ Kuroge Wagyu ที่มีลายไขมันสวย นุ่มละลายในปาก เมนูที่ไม่ควรพลาดคือเซ็ตเนื้อรวมที่ให้คุณได้ลองเนื้อหลายส่วนหายาก และเมนูข้าวหน้าเนื้อวากิว (Wagyu Don) ที่เสิร์ฟมาในกระทะร้อนพร้อมไข่แดงเยิ้มๆ ให้เราคลุกเคล้าเอง ซึ่งเป็นเมนูที่อร่อยและถ่ายรูปสวยมาก ที่สำคัญคือที่นี่ใช้ข้าวโฮชิฮิคาริ ซึ่งเป็นข้าวญี่ปุ่นคุณภาพดีที่สุด ทำให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น สาขานี้ตั้งอยู่ใน Nihonmachi Mall ที่สุขุมวิท 26 ร้านนี้เหมาะสำหรับทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น เพราะมีเซ็ตมื้อกลางวันราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่ามาก ราคาต่อหัวสำหรับเซ็ตมื้อกลางวันเริ่มต้นประมาณ 500-1,000 บาท ส่วนมื้อเย็นแบบอะลาคาร์ท หรือเซ็ตพรีเมียมจะมากกว่า 1,000 บาท

YAKINIKU MAEDA MINARI

Business hours

จ.,พ.-อา. 12:00–15:00 น. และ 17:00–23:00 น., ปิดทุกวันอังคาร

address

ชั้น1 ห้องเลขที่ 103-104 โครงการ Nihon Machi 115 สุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

23. Tetsu Yakiniku

ร้านยากินิกุที่ขึ้นชื่อเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะเนื้อวากิวโอมิ (Omi Wagyu) จุดเด่นของร้านนี้คือชุดเนื้อ Omi Wagyu Moriawase ที่จัดเต็มเนื้อโอมิ A5 ถึง 5 ส่วนหายาก ซึ่งเนื้อจะมีไขมันแทรกเยอะ นุ่มละมุนจนละลายในปาก ย่างบนเตาถ่านแล้วจะได้กลิ่นหอมรมควันอ่อนๆ เมนูเด็ดอีกอย่างที่สายเนื้อต้องลองคือ Double Trouble Sashimi ที่เป็นเนื้อวากิวเสิร์ฟคู่กับไข่หอยเม่นสุดหรู นอกจากนี้ยังมีเมนูซุปเนื้อตุ๋นที่รสชาติเข้มข้น กลมกล่อมมาก ร้านตั้งอยู่บนชั้น 5 ของ Central Embassy ราคาต่อหัวค่อนข้างสูง เฉลี่ยประมาณ 2,000 บาทขึ้นไปต่อคน

Tetsu Yakiniku

Business hours

Every day 11:00 AM–10:00 PM.

address

1453 Ploenchit Road, Lumpini Subdistrict, Pathumwan District, Bangkok 10330

24. Kuroushi no sato Yakiniku thonglor

ร้านนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะร้านเนื้อย่างสุดลับที่มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่น เพราะนำเข้าเนื้อ Chita Beef ซึ่งเป็นเนื้อวัวดำที่เลี้ยงเองจากฟาร์มในจังหวัดไอจิโดยตรง จุดเด่นของร้านคือคุณสมบัติของเนื้อชิตะบีฟที่ขึ้นชื่อว่านุ่มมาก แต่จะไม่มันเยิ้มจนเลี่ยนเหมือนวากิวทั่วไป ทำให้ทานได้เพลินๆ และสัมผัสรสชาติเนื้อได้อย่างชัดเจน เมนูที่คนรักเนื้อแนะนำคือ Chitagyu Negi Shio Rosu เนื้อสันคอนำเข้ากินคู่กับต้นหอมญี่ปุ่นที่หั่นมาชิ้นหนาเหมือนสเต็ก ต้องใช้เวลาย่างหน่อย แต่ความนุ่มละมุนคือคุ้มค่ามาก นอกจากนี้ทางร้านยังมีเซ็ตมื้อกลางวันที่ราคาดีมากๆ ให้ได้ลิ้มลองเนื้อวัวดำคุณภาพดีในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย ร้านตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อ 15 ราคาต่อหัวสำหรับเซ็ตมื้อกลางวันเริ่มต้นประมาณ 500-1,000 บาท ส่วนมื้อเย็นแบบอะลาคาร์ทจะมากกว่า 1,000 บาทขึ้นไป

Kuroushi no sato Yakiniku thonglor

Business hours

Every day 11:30–14:30 and 17:00–23:00.

address

โรงแรมโอ๊ควูด เรสซิเดนท์ 313 ซอย ทองหล่อ 13 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

25. SAN KYU Premium Yakiniku

ร้านนี้เป็นร้านยากินิกุที่เป็นที่นิยมของคนกรุงเทพฯ ในการมาสังสรรค์หลังเลิกงาน เพราะเขามีเมนูให้เลือกทั้งแบบอะลาคาร์ท และบุฟเฟต์สุดคุ้มในช่วงเวลาจำกัด จุดเด่นของร้านนี้คือความหลากหลายของเนื้อพรีเมียมที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ทำให้คุณได้ลองเนื้อวากิวหลายส่วนในราคาสบายกระเป๋า อย่างเมนู Jou Karubi หรือเนื้อซี่โครงคัดพิเศษ ที่นุ่มอร่อยถูกปากคนไทยมาก หรือจะเป็นลิ้นวัวคัดพิเศษที่หนึบเด้งเคี้ยวสนุก นอกจากนี้ทางร้านยังใช้เตาถ่านในการย่าง ทำให้เนื้อหอมเป็นพิเศษ และน้ำจิ้มก็อร่อยเด็ดขาดตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ร้านตั้งอยู่ในโครงการ @Ekkamai ที่จอดรถกว้างและสะดวกสบาย พนักงานที่นี่ก็บริการดี ใส่ใจลูกค้าทุกคน และที่ว้าวไปกว่านั้นคือทางร้านมักจะจัดโปรโมชันบุฟเฟต์ในราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายสุดๆ ซึ่งคุ้มค่ามากๆ ราคาต่อหัวสำหรับบุฟเฟต์เริ่มต้นประมาณ 229++ บาท ถึง 999++ บาท ส่วนเมนูอะลาคาร์ทเริ่มต้นประมาณ 500-1,000 บาท

SAN KYU Premium Yakiniku

Business hours

Every day 11:00 AM–11:00 PM.

address

5 3 ซ. สุขุมวิท 39 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110