10 ร้าน เมนูทาโกะยากิ (Takoyaki) เมนูสุดคลาสสิคที่คออาหารญี่ปุ่นห้ามพลาด

10.11.2025 (Updated: 12.11.2025)
10 ร้าน เมนูทาโกะยากิ (Takoyaki) เมนูสุดคลาสสิคที่คออาหารญี่ปุ่นห้ามพลาด

ทาโกะยากิ (Takoyaki) เมนูแป้งลูกกลม ๆ ร้อน ๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อปลาหมึกยักษ์ชิ้นโต ราดด้วยซอสหวานเข้มข้น มายองเนส แล้วโรยด้วยปลาแห้งคัตสึโอะที่เต้นดุ๊กดิ๊ก คือเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นและครองใจใครหลาย ๆ คนใช่ไหมคะ วันนี้เราเลยจัด 10 ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเมนูทาโกะยากิสุดคลาสสิกนี้ ให้ได้ตามไปพิสูจน์ความอร่อยว่าร้านไหนคือที่หนึ่งในใจ พร้อมแล้วไปอ่านกันเลย

1. Gindaco

พูดถึงทาโกะยากิแล้ว ก็ต้องนึกถึงร้าน Gindaco เป็นอันดับแรก ร้านนี้เป็นร้านทาโกะยากิสุดฮิตจากญี่ปุ่นที่มาเปิดสาขาในไทย และยังคงความปังไว้ได้จนถึงทุกวันนี้ คออาหารญี่ปุ่นไม่ควรพลาดเลยล่ะ ร้านครองใจคนไทยด้วยความกรอบนอกนุ่มในของแป้งทาโกะยากิที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทาโกะยากิลูกกลม ๆ ร้อน ๆ ที่กัดเข้าไปแล้วเจอแป้งกรอบนิด ๆ แต่ข้างในยังนุ่มละมุนลิ้น แถมเนื้อปลาหมึกยักษ์ก็ชิ้นใหญ่เต็มคำสุด ๆ ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของร้าน โรยหน้าด้วยปลาแห้งคือฟินเวอร์ นอกจากรสชาติออริจินอลแล้ว ยังมีรสชาติอื่นให้เลือกอีกเพียบ เช่น เทอริยากิที่ท็อปด้วยไข่นุ่ม ๆ หรือรสชีสก็มีนะ ร้านตั้งอยู่ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น Siam Paragon, Icon Siam, EmSphere และ Esplanade Ratchada ราคาต่อหัว จะอยู่ที่ประมาณ 100-250 บาท

Gindaco

เวลาทำการ

ทุกวัน 10:00–21:00 น.

ที่อยู่

ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น G โซน 991 ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

2. Banpuku Yokocho

ร้านอาหารญี่ปุ่นที่รวมเมนูอาหารญี่ปุ่นแสนอร่อยไว้หลากอย่าง บรรยากาศนี่ก็จัดเต็มมาก ทั้งป้าย ตัวอักษรคันจิ โคมแดง คือถ่ายรูปสวยทุกมุม แน่นอนว่ามีเมนูเด็ดอย่างทาโกะยากิให้ได้ลิ้มลองด้วย ตัวทาโกะยากิทำออกมาได้รสชาติตามต้นตำรับสุด ๆ ลูกกลมโต ไส้ปลาหมึกชิ้นใหญ่กำลังดี มีกลิ่นหอมของซอสและปลาแห้งให้ได้ฟินแบบครบสูตร นอกจากทาโกะยากิแล้ว ยังมีเมนูแนวอิซากายะ หรืออาหารจานเดียวแบบญี่ปุ่นให้สั่งมาแกล้มกันเพลิน  ๆอีกเพียบ  เป็นสถานที่ที่เหมาะมากสำหรับมานั่งชิลล์ นัดเพื่อนมาสังสรรค์ หรือจะมาเดทก็ได้ฟีลเลยล่ะ ราคาต่อหัวจะอยู่ประมาณ 250-500 บาท

Banpuku Yokocho

เวลาทำการ

ทุกวัน 17:00–1:00 น.

ที่อยู่

12/1 ถ. พระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

3. Shakariki 432

ร้านอิซากายะสุดคึกคักที่มีหลายสาขาในไทย เสิร์ฟเมนูสไตล์อิซากายะ ทั้งซาชิมิ ซูชิ คุชิคัตสึ และหม้อไฟสไตล์โอซาก้า ให้ได้ลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นแบบเต็มอิ่ม และที่ไม่ลองไม่ได้เลยก็คือเมนูทาโกะยากินี่แหละ ทางร้านจะจัดเตรียมอุปกรณ์และวัตถุดิบมาให้ครบเซ็ต ทั้งแป้ง ปลาหมึก และท็อปปิ้งต่าง ๆ สามารถสนุกไปกับการหยอดแป้ง ใส่ไส้ พลิกทาโกะยากิให้เป็นลูกกลม ๆ ด้วยตัวเองที่โต๊ะเลย เป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานและเสียงหัวเราะได้ดีมาก ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท

Shakariki 432

เวลาทำการ

ทุกวัน 11:00–4:00 น.

ที่อยู่

PS Tower 36/1 A วัฒนา, ซอย อโศก แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

หน้ารายละเอียดร้าน

https://aroimaru.com/article/26-branches-shakariki/

4. Thonglor Yokocho

สำหรับชาวทองหล่อที่อยากจะทานเมนูทาโกะยากิ ขอเสนอร้าน Thonglor Yokocho ร้านอิซากายะที่เน้นเสิร์ฟกับแกล้มและเครื่องดื่มเย็น ๆ ทาโกะยากิของที่นี่ก็รสชาติดีเลยทีเดียว มีเมนูที่น่าสนใจอย่าง Takoyaki Mochi Cheese ที่เพิ่มความยืดดึ๋งของโมจิและชีสเยิ้ม ๆ เข้าไป ทำให้รสชาติเข้มข้นขึ้นไปอีก เป็นเมนูที่ทั้งอร่อยและถ่ายรูปสวย นอกจากทาโกะยากิแล้ว เมนูอื่น ๆ ก็เด็ดไม่แพ้กัน เช่น โอโคโนมิยากิ หรือเมนูซาชิมิสด ๆ และปิ้งย่างต่าง ๆ ใครชอบร้านที่บรรยากาศคึกคัก บอกเลยว่าห้ามพลาด ร้านตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 11 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท

Thonglor Yokocho

เวลาทำการ

ทุกวัน 17:00–23:30 น.

ที่อยู่

138, 1 ถนน สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

5. TONKATSU KATSU ICHI

TONKATSU KATSU ICHI ร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นดีที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 11 ที่ญี่ปุ่นมาทานกันเยอะมาก ๆ ทงคัตสึของที่นี่คือทอดมาแบบมืออาชีพสุด ๆ แป้งด้านนอกกรอบ ไม่อมน้ำมัน แต่เนื้อหมูด้านในยังนุ่มและชุ่มฉ่ำมาก และถ้าคิดว่าร้านทงคัตสึจะขายแค่หมูทอดอย่างเดียวละก็ คิดผิดแล้ว บอกเลยว่าทาโกะยากิของที่นี่ก็ทำออกมาได้รสชาติดีตามมาตรฐานของร้านอาหารญี่ปุ่น เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับคนที่อยากกินทงคัตสึอร่อย ๆ แต่ก็อยากหาของทานเล่นสไตล์สตรีทฟู้ดญี่ปุ่นมาลองด้วย ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาท

TONKATSU KATSU ICHI

เวลาทำการ

ทุกวัน 17:00–23:00 น.

ที่อยู่

33, 4 ซ. สุขุมวิท 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

6. Mokkori Silom

Mokkori สาขาสีลม เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะ ที่ปริมาณที่ใหญ่สะใจ ไม่ว่าจะเป็นราเมงชามโต หรือข้าวแกงกะหรี่ที่ให้มาแบบจานเบิ้ม ๆ แม้ว่าร้านนี้จะดังเรื่องราเมงและข้าวแกงกะหรี่ แต่ก็มีเมนูทาโกะยากิเป็นของทานเล่นที่อร่อยไม่แพ้กันนะ มีรีวิวบอกว่าทาโกะยากิของร้านนี้รสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ แป้งไม่หนาเกินไป มีเนื้อปลาหมึกชิ้นใหญ่หนึบ ๆ อยู่ข้างในด้วย ทานเพลินสุด ๆ บรรยากาศร้านก็อบอุ่นและเป็นกันเอง เหมาะกับเป็นที่แฮงค์เอาท์หลังเลิกงาน ร้านตั้งอยู่ในซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 1 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท

Mokkori Silom

เวลาทำการ

อ.-อา. 10:30–14:30 น. และ 17:00–23:00 น., ปิดทุกวันจันทร์

ที่อยู่

43/1 สีลมสุรวงศ์คอนโด ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 1 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ ซอย นราธิวาสราชนครินทร์ 1 แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

7. Imoya

ร้านนี้เป็นร้านสไตล์อิซากายะแบบคลาสสิกที่ได้รับความนิยมมากในหมู่คนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในไทย บรรยากาศจะอบอุ่น ไฟสลัว ๆ เหมาะกับการมานั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ พร้อมกับแกล้มอร่อย ๆ หลังเลิกงาน เมนูอาหารมีให้เลือกเยอะมาก แถมราคายังเป็นมิตรกับกระเป๋าอีกด้วย สำหรับเมนู ทาโกะยากิของที่นี่ก็มีความพิเศษไม่แพ้ใคร เพราะเขาเสิร์ฟมาพร้อมกับกระทะหลุมเตาก๊าซ ให้ได้มาเทแป้งและพลิกทาโกะยากิกันสด ๆ ที่โต๊ะเลย ได้กินตอนที่ทาโกะยากิกำลังร้อน ๆ กรอบ ๆ คือที่สุด เมนูอื่น ๆ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน เช่น คุชิยากิ และเมนูซาชิมิที่ราคาไม่แพง แต่ปลาสดใช้ได้ นอกจากนี้ยังมีกิมมิกสนุก ๆ อย่างเมนูสเต๊กเนื้อที่ถ้าทอยเต๋าได้แต้มตรงกันก็จะได้เนื้อเพิ่มด้วยนะ ร้านตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 24 เข้าซอยมาไม่ไกล ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาท

Imoya

เวลาทำการ

ทุกวัน 17:00–23:30 น.

ที่อยู่

2/17-19 ซ.สุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

8. Shinya Shokudo izakaya

ร้านอิซากายะที่เปิดตั้งแต่เย็นจนถึงเช้า ร้านนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากซีรีส์ญี่ปุ่นชื่อดังอย่าง Midnight Diner ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น เป็นกันเอง เมนูอาหารก็เยอะแบบละลานตา เน้นกับแกล้มสไตล์ญี่ปุ่น และแน่นอนว่ามีเมนูทาโกะยากิให้สั่งมาคู่กับเครื่องดื่มเย็น ๆ ด้วย ทาโกะยากิของที่นี่จะเป็นแบบ Age Takoyaki หรือทาโกะยากิแบบทอด ซึ่งจะมีความกรอบนอกกว่าแบบย่างปกติ เป็นของทอดที่ทำหน้าที่เป็นกับแกล้มได้ดีมาก ๆ เมนูที่ควรลองอื่น ๆ เช่น โอเด้ง ยากิโทริ และเมนูข้าวหน้าต่าง ๆ ร้านตั้งอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท ใกล้กับทางลง BTS ทองหล่อ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาท

Shinya Shokudo izakaya

เวลาทำการ

ทุกวัน 0:00–6:00 น. และ 17:00–0:00 น.

ที่อยู่

1051 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

9. MENSHO TOKYO

ร้าน MENSHO TOKYO อาจจะโด่งดังในฐานะร้านราเม็งระดับพรีเมียม แต่ของทานเล่นสุดคลาสสิกอย่างทาโกะยากิ บอกเลยว่าที่นี่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จุดขายของร้านคือความพิถีพิถันในการทำราเมง เมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่คือ Tori Paitan ราเมงซุปไก่รสเข้มข้น และเส้นราเมงที่ทำสดใหม่ทุกวัน แต่ความพิเศษอีกอย่างคือร้านมีเมนูของทอดและของทานเล่นคุณภาพดีให้สั่งมาแกล้ม หนึ่งในนั้นก็คือ ทาโกะยากิลูกกลมโต รสชาติเข้มข้น เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยและไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงร้านราเมงเจ้าดังร้านนี้ ร้านตั้งอยู่ที่ ชั้น G อาคาร RSU Tower สุขุมวิท 31 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาท

MENSHO TOKYO

เวลาทำการ

ทุกวัน 11:00–21:30 น.

ที่อยู่

571 อาร์เอสยู ทาวเวอร์ (RSU Tower) ห้อง G-03 ชั้น G แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

10. Takobaker

ร้าน Takobaker Seoul ตั้งอยู่ที่บรรทัดทอง จุฬาซอย 18 ร้านนี้เป็นร้านทาโกะยากิสัญชาติเกาหลีที่เอาเมนูสุดคลาสสิกมาตีความใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ทำให้เกิดทาโกะยากิที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แป้งจะนุ่มหนึบตามสไตล์เกาหลี และมีท็อปปิ้งให้เลือกเยอะมาก เมนูที่ต้องลองคือ ทาโกะยากิซอสเผ็ดเกาหลี ที่รสชาติจัดจ้านเผ็ดร้อนถูกปากคนไทย หรือจะเป็นทาโกะยากิชีสเยิ้ม ๆ ที่ถูกใจสายชีสแน่นอน และยังมีหน้าต้นหอมญี่ปุ่นให้ได้ลองสั่งทานด้วย เมนูเด็ดอื่น ๆ อย่าง ยากิโซบะไข่ดาว ก็เป็นอีกจานที่ไม่ควรพลาด และบางครั้งร้านก็มีโปรโมชั่นชุดสุดคุ้มที่จับคู่ทาโกะยากิกับยากิโซบะด้วย ราคาต่อหัวถือว่าย่อมเยา เริ่มต้นที่ประมาณ 100-200 บาท

Takobaker

เวลาทำการ

ทุกวัน 14:00–22:00 น.

ที่อยู่

เลขที่อาคาร 182 ล็อก 20 ซอย จุฬาฯ 18 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

บทความแนะนำ บทความแนะนำ