20 ร้านอาหารญี่ปุ่นแถวชิดลม รับรองอร่อยถูกใจสายกิน
ชิดลม (Chidlom) ถือเป็นสวรรค์ของคนรักร้านอาหารญี่ปุ่นเลยล่ะ เพราะว่าที่นี่เป็นศุนย์รวมร้านอาหารคุณภาพเยี่ยมจากแดนปลาดิบ ตั้งแต่ร้านราเมนระดับแชมป์โลก ร้านทงคัตสึเนื้อฉ่ำๆ ร้านอิซากายะสุดชิลล์ ไปจนถึงร้านโอมากาเสะระดับพรีเมียมที่ได้ดาวมิชลิน บทความนี้เราได้คัดมาให้แล้วแบบเน้นๆ 20 ร้านอาหารญี่ปุ่นแถวชิดลม ที่รับรองว่าตอบโจทย์ทุกความอยาก ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยว่าร้านไหนบ้างที่คุณต้องปักหมุดไปเช็คอิน
1. Shichi Japanese Restaurant
ร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านชิดลมที่บรรยากาศดี แถมวัตถุดิบก็พรีเมียมเวอร์ๆ และมีเมนูให้เลือกเยอะมากกว่า 200 เมนู โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Shichi Roll โรลแซลมอนราดซอสเมนไทโกะเสิร์ฟบนจานเลข 7 สุดเก๋ บอกเลยว่าฟินมาก นอกจากนี้ยังมีซาซิมิที่สดสะใจ หรือใครสายเนื้อก็มีซี่โครงเนื้อวากิวย่างถ่านหอมๆ ให้ลองด้วยนะ ร้านตั้งอยู่ชั้น 2 เซ็นทรัลชิดลม ภายในร้านตกแต่งได้อบอุ่น ดูดี มีความญี่ปุ่นแบบโมเดิร์น เหมาะกับการมาทานทั้งมื้อเที่ยง หรือมื้อพิเศษกับเลยล่ะ แถมยังมีเมนูอาหารกลางวันราคาพิเศษด้วยนะ คุ้มสุดๆ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท
Shichi Japanese Restaurant
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–22:00 น.
- ที่อยู่
เซ็นทรัลชิดลม โซน public lane, ชั้น 1, กรุงเทพมหานคร 10330
2. Sato no Udon
คนรักเมนูอุด้งต้องไม่พลาดร้าน Sato no Udon ที่ตั้งอยู่ใจกลางชิดลม ในโครงการ The Mercury Ville เส้นอุด้งของที่นี่เป็นเส้นอุด้งโฮมเมด ที่ทางร้านจะทำเส้นสดใหม่ทุกวัน สัมผัสนุ่ม หนึบ เข้ากับน้ำซุปของร้านมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุด้งในซุปร้อนๆ ที่น้ำซุปเข้มข้นกลมกล่อม หรือจะเป็นซารุอุด้งที่เสิร์ฟคู่กับซอส ก็เป็นเมนูที่คนรักเส้นต้องลองเพื่อสัมผัสความอร่อยของเส้นแบบออริจินัลแท้ๆ นอกจากเมนูอุด้งที่เป็นพระเอกแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูข้าวต่างๆ ให้เลือกอีกเพียบอย่าง ข้าวหน้าหมู ที่เป็นหมูสามชั้นหมักซอสย่างก็เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่ไม่ควรพลาด ร้านมีบรรยากาศสบายๆ เหมาะกับการแวะมาฝากท้องในช่วงกลางวันหรือหลังเลิกงานมากๆ ส่วนราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท
Sato no Udon
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–21:00 น.
- ที่อยู่
3rd Floor Mercury Ville, 540 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
3. Nippon-Tei President Tower Branch
ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดคลาสสิกในย่านชิดลม เรียกว่าเป็นขวัญใจคนญี่ปุ่นและคนไทยที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับสไตล์เกียวโต-โอซาก้าเลยก็ว่าได้ จุดขายของที่นี่คือ ความเก๋าและคุณภาพ ถึงร้านจะเปิดมานาน แต่ก็ยังรักษามาตรฐานของวัตถุดิบและความอร่อยไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นซาชิมิที่สดมาก หรือเซ็ตอาหารกลางวันที่หลายคนบอกว่าคุ้มค่าคุ้มราคาสุดๆ เริ่มต้นแค่ไม่กี่ร้อยบาทแต่ได้อาหารครบเซ็ตพร้อมชาฟรี เมนูอาหารจะไปเรื่อยๆ ตามวันที่เชฟจัดให้ บรรยากาศของร้านเรียบง่าย ดูดี และมีความเป็นญี่ปุ่นสูงมาก มีห้องส่วนตัวให้บริการด้วย เหมาะกับการนัดทานอาหารแบบเป็นทางการหรือมื้อพิเศษกับครอบครัวมากๆ ร้านตั้งอยู่ในอาคาร President Tower ใกล้กับ BTS ชิดลม ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ขึ้นไป
Nippon-Tei President Tower Branch
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–14:00 น. และ 17:00–21:00 น.
- ที่อยู่
ชั้น B อาคาร President Tower ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
4. KAI by Nippontei
KAI by Nippontei เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียม บนชั้น 4 ของตึกเกษรอมรินทร์ Gaysorn Amarin) ร้านนี้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพที่การันตีความอร่อยได้เลย ร้านนำเสนอเมนูอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่นที่มีความสร้างสรรค์และทันสมัย โดยเฉพาะเมนูดงบุริ หรือข้าวหน้าต่างๆ ที่เป็นพระเอกของร้าน ไม่ว่าจะเป็น Omakase KAI-sen Don ที่รวมเอาปลาดิบพรีเมียมมาไว้ในชามเดียวแบบจัดเต็ม หรือจะเป็นข้าวหน้าเนื้อวากิวและคุโรบูตะเข้มข้นก็น่าลองไม่แพ้กัน ที่สำคัญคือวัตถุดิบเขาคัดมาอย่างดี ใช้ปลาเกรดเดียวกับที่ใช้ในร้านโอมากาเสะ รับรองว่าสดใหม่ทุกคำ แถมบรรยากาศร้านก็ตกแต่งได้สวยงาม ดูดี มีความโมเดิร์น เหมาะกับการมาทานมื้อกลางวันแบบหรูๆ หรือจะเป็นมื้อเย็นสบายๆ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท ขึ้นไป
KAI by Nippontei
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:30–21:00 น.
- ที่อยู่
4th Fl, Gaysorn Amarin, 496, 502 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
5. Sushi Mori
ร้านซูชิที่เป็นที่รู้จักกันดีว่าคุณภาพวัตถุดิบแน่น เทียบชั้นโอมากาเสะ แต่มีเมนูอะลาคาร์ทให้เลือกเยอะมากๆ กว่า 300 เมนูเลยทีเดียว ส่วนซิกเนเจอร์ของร้านที่ห้ามพลาดเลยคือ Tama Roll โรลซูชิที่ครีเอทออกมาได้อลังการและไม่เหมือนใครมากๆ มีหลายเมนูที่ผสมผสานวัตถุดิบสุดพรีเมียมอย่างฟัวกราส์ เนื้อวากิว หรือหอยเชลล์ฮอกไกโดไว้ในโรลคำเดียว บอกเลยว่ากัดคำเดียวก็ฟินลืม ยังมีเมนูพรีเมียมอื่นๆ ที่น่าลองสุดๆ เช่น Wagyu Sukiyaki Kansai Style ที่ใช้เนื้อวัวคาโกชิม่า A5 มาผัดในหม้อไฟร้อนๆ ชวนน้ำลายสอสุด ๆ ร้านตั้งอยู่ในเกษรทาวเวอร์ (Gaysorn Tower) บรรยากาศดูหรูหรา สงบ และมีความเป็นส่วนตัวมากๆ แถมยังมีห้องส่วนตัวให้บริการด้วย และที่เด็ดไม่แพ้กันคือ ร้านนี้มีโปรโมชั่นลดสูงสุดถึง 50% ในบางเมนูแทบจะทุกเดือน ใครที่อยากทานของพรีเมียมแบบคุ้มๆ ต้องคอยเช็คโปรโมชั่นของร้านให้ดีๆ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท ขึ้นไป
Sushi Mori
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–22:00 น.
- ที่อยู่
127 อาคารเกษร ทาวเวอร์ ชั้น 3 ถนน ราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
6. Mono Sei
ร้านโอมากาเสะระดับพรีเมียมแบบในย่านชิดลม ตั้งอยู่ในโรงแรม InterContinental Bangkok เรียกว่าเดินทางสะดวกและบรรยากาศหรูหรามากๆ สิ่งที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่พูดถึงคือการเป็นโอมากาเสะที่จัดเต็มครบเครื่อง ไม่ได้มีแค่ซูชิอย่างเดียว ทางร้านจะรังสรรค์เมนูหลากหลายตั้งแต่ปลาดิบ ซูชิชั้นเลิศ เนื้อวากิวพรีเมียม อาหารทะเลหายาก ไปจนถึงเทมปุระ ของย่าง และของหวานแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม โดยวัตถุดิบทุกอย่างจะถูกคัดสรรมาอย่างดีที่สุดจากแหล่งวัตถุดิบชั้นเลิศในญี่ปุ่น วัตถุดิบบางอย่างถึงกับต้องประมูลมาเลยทีเดียว และที่พิเศษสุด ๆ คือ ร้านจะมีเชฟชาวญี่ปุ่นฝีมือเยี่ยมคอยดูแลอาหารทุกจานอย่างพิถีพิถัน แถมยังมีคอร์สแฮนด์โรล (Handroll) ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นให้ลองด้วย คอร์สโอมากาเสะเริ่มต้นที่ประมาณ 6,000++ บาท และคอร์สแฮนด์โรลอยู่ที่ประมาณ 1,890-2,890 บาท
Mono Sei
- เวลาทำการ
อ.-อา. 12:00–23:00 น., ปิดทุกวันจันทร์
- ที่อยู่
UNITS HG06-HG10, GROUND FLOOR INTERCONTINENTAL BANGKOK 973 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
7. Katsuya
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่คนรักอาหารญี่ปุ่นต้องรู้จัก เพราะเมนูอาหารของร้านนี้คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ เมนูที่ทุกคนชื่นชอบก็คือ ทงคัตสึ หรือหมูทอดที่ทำออกมาได้กรอบนอกนุ่มใน ไม่อมน้ำมัน แถมยังเสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ และกะหล่ำปลีสดซอยที่เติมได้ไม่อั้นด้วย อีกเมนูยอดฮิตที่ต้องสั่งก็คือ คัตสึด้ง (Katsudon) หมูทอดราดไข่ในน้ำซุปเข้มข้นสไตล์ญี่ปุ่น หรือจะเป็นเซ็ตทงคัตสึสันนอก ที่เนื้อหมูชิ้นหนากำลังดี นอกจากนี้ยังมีเมนูที่สอดไส้ชีสยืดๆ ให้สายชีสได้ฟินกันด้วยนะ ร้านอยู่ที่ชั้น 6 โซน Atrium เซนทรัลเวิลด์ ราคาต่อหัว จะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท
Katsuya
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–22:00 น.
- ที่อยู่
37/6 ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
8. Daisen Premium Japanese Restaurant
ร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดี แต่ราคาสบายกระเป๋าแบบไม่น่าเชื่อ ร้านนี้เป็นที่เลื่องลือในหมู่นักชิมสายประหยัด ที่นี่เขามีเซ็ตอาหารกลางวัน หรือเมนูเซ็ตสุดพิเศษที่จัดเต็มมากๆ ในราคาเริ่มต้นแค่ 185++ บาทเท่านั้น ในเซ็ตจะได้ครบทั้งเมนูหลัก เช่น นาเบะหมูน้ำดำ ทงคัตสึ สเต๊กปลาซาบะ ได้ข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ไข่ตุ๋นเนื้อเนียน เครื่องเคียงอย่างสลัด กิมจิ ถั่วแระ และเครื่องดื่มอย่างชาเขียวหรืออชามะนาว และปิดท้ายด้วยไอศกรีมชาเขียวอีก 1 ลูก คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว นอกจากเซ็ตคุ้มๆ แล้ว ทางร้านยังมีเมนูอะลาคาร์ท ซูชิ ซาชิมิ และยากินิกุเนื้อพรีเมียมให้เลือกอีกเพียบ บรรยากาศร้านก็ดูดี มีที่นั่งทั้งแบบโต๊ะและแบบบาร์ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 6 เซนทรัลเวิลด์ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท
Daisen Premium Japanese Restaurant
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–22:00 น.
- ที่อยู่
6th floor, Central World, ถนน ราชดำริ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
9. Seki Grande
ร้านต่อมาขอเอาใจสายบุฟเฟต์ กับร้าน Seki Grande ร้านนี้เป็นอีกระดับของร้าน Seki ที่คุ้นเคย แต่ยกระดับความพรีเมียมของวัตถุดิบขึ้นไปอีก จุดขายของที่นี่คือ บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นพรีเมียมที่หลากหลาย ที่นี่ไม่ได้มีแค่ซูชิหรือซาชิมิธรรมดา แต่มีเมนูพิเศษที่หาทานยากในบุฟเฟต์ อย่างเช่น ฟัวกราส์ ซูชิวากิว A4 หรือมันปูคานิมิโสะแบบจัดเต็ม คือจ่ายราคาบุฟเฟต์แต่ได้ทานเมนูพรีเมียมแบบอะลาคาร์ท แถมปลาแซลมอนที่นี่ก็สด หนา และชิ้นใหญ่สะใจมากๆ สั่งได้รัวๆ ไม่ต้องยั้ง นอกจากเมนูซูชิ ซาชิมิ และอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีเมนูย่างหรือของทอดให้เลือกเยอะมากๆ เหมาะกับการมาฉลองมื้อใหญ่โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องราคา การเดินทางก็สะดวกมากๆ เพราะร้านตั้งอยู่ที่เซนทรัลเวิลด์ ชั้น 7 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป
Seki Grande
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–22:00 น.
- ที่อยู่
7th floor, CentralWorld, ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
10. MAGURO
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นความสดใหม่ของวัตถุดิบ โดยเฉพาะปลามากุโระ เป็นร้านที่ครองใจคนรักเมนูซูชิและซาชิมิ เพราะร้านเลือกใช้ปลาที่สดมาก แถมยังมีปลาหลายชนิดและหลายเกรดให้เลือก โดยเฉพาะเมนูที่ทำจากปลาทูน่าไม่ว่าจะเป็น มากุโระซาชิมิ ซูชิโอโทโร่และชูโทโร่ที่ละลายในปาก หรือเมนูข้าวหน้าปลาอย่าง Maguro Lover Don ที่รวมปลามากุโระหลายส่วนมาไว้ในชามเดียว ถือเป็นสวรรค์ของคนรักปลาทูน่าจริงๆ ยังมีเมนูอื่นๆ ที่อร่อยไม่แพ้กัน เช่น ซูชิแซลมอน ที่ชิ้นใหญ่เต็มคำ หรือเมนูย่างต่างๆ ที่ทำจากวัตถุดิบชั้นดี นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ครีเอทแปลกใหม่ให้ลองอยู่ตลอดด้วย ร้นตั้งอยู่ที่ชั้น 7 เซนทรัลเวิลด์ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป
MAGURO
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–22:00 น.
- ที่อยู่
6th Floor, Unit A606 CentralWorld แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10400
11. Sousaku Central World
ร้านนี้เขาเด่นเรื่องซูชิและโรลฟิวชั่นที่ผสมผสานรสชาติและวัตถุดิบได้ลงตัวสุดๆ แถมยังมีการตกแต่งจานได้สวยงามน่าถ่ายรูปมากๆ เมนูซิกเนเจอร์ที่มาแล้วต้องสั่งคือ ซูชิโรลต่างๆ ที่ราดด้วยซอสสูตรเฉพาะของร้าน หรือเมนูพรีเมียมที่ใช้ปลาชั้นดีและไข่ปลาชนิดต่างๆ มาสร้างสรรค์เป็นเมนูที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่าง Sousaku Roll ที่รวมความอร่อยแบบจัดเต็มไว้ในคำเดียว หรือซาชิมิสดใหม่ ที่เสิร์ฟจัดจานมาอย่างสวยงาม และถึงแม้จะเป็นเมนูที่ดูครีเอทีฟ แต่รสชาติก็ยังคงความกลมกล่อมและอร่อยแบบญี่ปุ่นไว้ สำหรับคนที่อยากทานอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมียมในบรรยากาศสบายๆ แต่ดูดีมีสไตล์ ขอแนะนำที่นี่เลย ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 โซน Beacon ในเซนทรัลเวิลด์ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ขึ้นไป
Sousaku Central World
- เวลาทำการ
จ.-ศ. 11:00–22:00 น.
ส.-อา. 10:30–22:00 น.
- ที่อยู่
ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
12. Umi BKK at Gaysorn Village
อีกหนึ่งร้านโอมากาเสะสุดพรีเมียมแบบในย่านชิดลมที่ห้ามพลาด เป็นร้านโอมากาเสะแรกๆ ที่เปิดในไทย และยังคงรักษาคุณภาพระดับท็อปไว้ได้เสมอ ที่นี่นำเสนอซูชิและเมนูสไตล์เอโดะมาเอะ ซึ่งเน้นความอร่อยของวัตถุดิบตามฤดูกาลที่นำเข้าจากญี่ปุ่นแบบวันต่อวั เชฟจะรังสรรค์ซูชิแต่ละคำอย่างพิถีพิถัน ทำให้ได้ลิ้มรสชาติที่แท้จริงของปลาแต่ละชนิดแบบเต็มๆ คำ นอกจากนี้ ข้าวซูชิ (Shari) ของที่นี่ก็ขึ้นชื่อว่ามีความเปรี้ยวและรสชาติกลมกล่อมเข้ากับปลาได้เป็นอย่างดี ถือเป็นอักร้านที่น่ามาทานมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบโอมากาเสะสไตล์ดั้งเดิม ร้านตั้งอยู่ในเกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) สามารเดินจาก BTS ชิดลมได้เลย คอร์สมักจะมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็น ราคาเริ่มต้นก็ถือว่าเข้าถึงได้สำหรับโอมากาเสะคุณภาพสูง อยู่ที่ประมาณ 3,500-7,000 บาท
Umi BKK at Gaysorn Village
- เวลาทำการ
อ.-อา. 12:00–14:00 น. และ 17:00–22:00 น., ปิดทุกวันจันทร์
- ที่อยู่
999 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
13. Menya Itto
ร้านราเมงสุดเด็ดในย่านชิดลม ร้านนี้ไม่ใช่แค่ร้านราเมงธรรมดา แต่เป็นถึงแบรนด์ดังที่เคยติดอันดับ 1 ในวงการราเมงของประเทศญี่ปุ่นเลยนะ เมนูไฮไลต์ของร้านก็คือ สึเคเมน (Tsukemen) หรือราเมงแบบจุ่มนั่นเอง เส้นราเมงของที่นี่ทำสดใหม่ทุกวัน มีความหนา หนึบ และอร่อยเป็นเอกลักษณ์มากๆ เสิร์ฟคู่กับน้ำซุปเข้มข้นที่เคี่ยวจากไก่และอาหารทะเลหลายชนิดจนได้รสชาติอูมามิที่กลมกล่อมสุดๆ บอกเลยว่ากินแล้วฟินเหมือนได้บินไปกินที่ญี่ปุ่นเลยล่ะ ใครที่ไม่ชอบซุปเข้มข้นมาก แนะนำให้ลองชิโอะราเมง (Shio Ramen) ราเมงซุปเกลือที่หอมอร่อยไม่แพ้กัน ร้านตั้งอยู่ที่เกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) ส่วนเมนูราเมงราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 200 กว่าบาท เฉลี่ยนแล้วจะตกอยู่ที่คนละประมาณ 250-500 บาท
Menya Itto
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–20:30 น.
- ที่อยู่
ชั้น 3 เกษรทาวเวอร์ (เกษรวิลเลจ) อาคารใหม่ 127 ถ. ราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
14. Ginza Tenharu BKK
ร้านเทมปุระระดับตำนานที่ส่งตรงมาจากย่านกินซ่าในย่านชิดลม เมนูเทมปุระของที่นี่เน้นความละเมียดละไมในทุกขั้นตอน ผ่านเมนูเทมปุระแบบคอร์ส (Omakase Tempura) โดยเชฟจะทอดวัตถุดิบต่างๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปลา หรือผักตามฤดูกาล ทีละชิ้นๆ แล้วเสิร์ฟให้คุณทานแบบร้อนๆ จากกระทะ ความลับความอร่อยคือ แป้งเทมปุระที่บางเบา กรอบฟู และไม่อมน้ำมัน บอกเลยว่การทานเทมปุระที่นี่จะแตกต่างจากที่อื่นแน่นอน ร้านตั้งอยู่ในโรงแรม The St. Regis Bangkok ติดกับ BTS ชิดลม บรรยากาศร้านมีความสงบ เรียบหรู และเป็นส่วนตัวตามสไตล์ญี่ปุ่ มีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับนั่งทานโอมากาเสะเทมปุระโดยเฉพาะ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ขึ้นไป
Ginza Tenharu BKK
- เวลาทำการ
อ.-อา. 11:30–14:30 น. และ 17:30–22:00 น., ปิดทุกวันจันทร์
- ที่อยู่
3F-23 999 Gaysorn Centre ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
15. Ginza Sushi Ichi
ร้านนี้การันตีความอร่อยด้วยมิชลินสตาร์จากสาขาแม่ที่ญี่ปุ่นและคิวที่ต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือน ที่นี่เสิร์ฟซูชิโอมากาเสะเอโดะมาเอะที่เน้นความอร่อยของวัตถุดิบตามฤดูกาลที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากตลาดปลาในญี่ปุ่นแบบวันต่อวัน เชฟจะปรุงรสปลาแต่ละชนิดด้วยเทคนิคแบบดั้งเดิม เช่น การหมักเกลือ การหมักน้ำส้มสายชู เพื่อดึงรสชาติที่ดีที่สุดออกมา แล้วนำมาปั้นเป็นซูชิคำต่อคำอย่างประณีต ข้าวซูชิของที่นี่ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ทำให้ทุกคำที่ทานเข้าไปเต็มไปด้วยความอูมามิที่หาที่เปรียบไม่ได้ ร้านนี้ตั้งอยู่ในโรงแรม Erawan Bangkok อยู่ติดกับ BTS ชิดลม ทำให้เดินทางสะดวกสบายมากๆ บรรยากาศภายในร้านจะมีความเป็นส่วนตัวมากๆ มีเพียงเคาน์เตอร์ซูชิบาร์และห้องส่วนตัวเล็กน้อย ทำให้เชฟสามารถดูแลลูกค้าแต่ละท่านได้อย่างทั่วถึงและใกล้ชิด ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาทขึ้นไป ในมื้อกลางวัน และ 5,500 บาทขึ้นไป ในมื้อเย็น
Ginza Sushi Ichi
- เวลาทำการ
อ.-อา. 11:30–14:30 น. และ 17:30–22:00 น., ปิดทุกวันจันทร์
- ที่อยู่
3rd Floor,999 Gaysorn Centre Room 3F-08 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
16. Nabezo Premium
Nabezo Premium ร้านที่คนรักเนื้อวากิวและชาบู-สุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นแบบพรีเมียมห้ามพลาด จุดที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่หนึ่งในใจของหลายๆ คนคือ คุณภาพเนื้อวากิวและหมูคุโรบุตะระดับ A5 ที่คัดสรรมาอย่างดีเยี่ยม ลายสวย นุ่ม ละลายในปากสุด ที่นี่เขามีเนื้อวากิวให้เลือกหลากหลายเกรด แถมยังมีวิธีการปรุงทั้งแบบสุกี้ยากี้และชาบูชาบูให้เลือกตามความชอบ ใครที่ชอบสุกี้ยากี้ อย่าลืมสั่งไข่ดิบออร์แกนิกมาจุ่มเนื้อเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลและรสชาติที่นัวขึ้นไปอีกนะ ที่นี่ยังเป็นที่พูดถึงในเรื่องการบริการที่ใส่ใจมากๆ พนักงานจะคอยดูแลและปรุงสุกี้ยากี้ให้ที่โต๊ะตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้ได้ทานสุกี้ยากี้แบบที่ถูกวิธีตามต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ๆ บรรยากาศร้านก็มีความหรูหรา สงบ และเป็นส่วนตัวมากๆ เหมาะกับการพาคู่รักหรือครอบครัวมาทานมื้อพิเศษ หรือใช้เป็นที่รับรองลูกค้าก็ได้ การเดินทางก็สะดวกสุดๆ เพราะร้านตั้งอยู่ในเกษรวิลเลจ (Gaysorn Village) ส่วนราคาต่อจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ขึ้นไป
Nabezo Premium
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–22:00 น.
- ที่อยู่
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
17. Chisana Nami
ร้านอาหารญี่ปุ่นบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเองในย่านชิดลม เน้นเสิร์ฟเมนูโอมากาเสะราคาเข้าถึงง่าย ที่เน้นวัตถุดิบคุณภาพดีแต่มาในราคาน่ารักๆ ไม่ต้องจ่ายหนักเท่าร้านพรีเมียมอื่นๆ ที่นี่เชฟจะคัดสรรวัตถุดิบตามฤดูกาลมาสร้างสรรค์เป็นเมนูซูชิและอาหารจานเล็กๆ ที่อร่อยลงตัว โดยเฉพาะซูชิที่ปั้นอย่างพิถีพิถัน และเมนูพิเศษประจำวันของเชฟที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ให้ได้เซอร์ไพรส์ทุกครั้งที่มา ตัวร้านจะตกแต่งสไตล์มินิมอล มีความอบอุ่นและเป็นกันเองมากๆ ทำให้รู้สึกสบายๆ ไม่ได้เกร็งเหมือนการทานโอมากาเสะในร้านหรู เหมาะสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นลองทานโอมากาเสะ หรืออยากได้มื้ออาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีในวันสบายๆ ร้านตั้งอยู่ในอาคาร Park Ventures Ecoplex แนะนำให้โทรสอบถามรอบเวลาและจองคอร์สล่วงหน้าก่อนไปทาน เพราะที่นั่งมีจำกัดมากๆ ส่วนราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาท
Chisana Nami
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:30–22:00 น.
- ที่อยู่
494 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
18. Kenshin Izakaya
ร้านอิซากายะในย่านชิดลม ที่มีบรรยากาศสนุกคึกคักเหมือนอยู่ญี่ปุ่นจริงๆ จุดขายที่ทำให้ร้านนี้เป็นขวัญใจของคนทำงานคือ ความหลากหลายของเมนูสไตล์อิซากายะ ที่มีให้เลือกเยอะมาก แถมราคายังเป็นมิตรสุดๆ ที่นี่เขามีครบทุกอย่างที่อิซากายะควรมี ไม่ว่าจะเป็นเมนูคุชิยากิร้อนๆ หอมๆ ซาชิมิที่สดใช้ได้ เมนูหม้อไฟอุ่นๆ ซดคล่องคอ และที่ขาดไม่ได้คือ เครื่องดื่มเย็นๆ ที่มีให้เลือกเยอะมาก บรรยากาศในร้านคือครึกครื้น เหมาะกับการมานั่งเม้าท์มอยกับเพื่อนๆ หลังเลิกงานสุดๆ ไปเลย นอกจากเมนูหลักแล้ว ร้านยังมีโปรโมชั่นเครื่องดื่มอยู่เรื่อยๆ ทำให้สายสังสรรค์แฮปปี้สุดๆ ไปเลย รา้นตั้งอยู่ที่ Groove Centralworld บริเวณชั้น 2 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 250-500 บาท
Kenshin Izakaya
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–0:00 น.
- ที่อยู่
2FL. Groove Central World, Prathumwan, เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
19. Zuma Bangkok
ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดหรูในย่านชิดลม ตั้งอยู่ในโรงแรม The St. Regis Bangkok ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่คนดังและนักชิมสายพรีเมียมต้องมาเช็คอิน จุดขายของที่นี่คือ อาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะแบบร่วมสมัย (Izakaya Style Dining) ที่มีวิธีการปรุงที่เน้นความสดใหม่และรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แต่มาในรูปแบบที่โมเดิร์นและอินเตอร์สุดๆ เมนูซิกเนเจอร์ที่ใครๆ ก็พูดถึงคือ ปลาหิมะญี่ปุ่นหมักซอสมิโซะ (Black Cod Miso) ที่รสชาติเข้มข้น หอมหวาน และละลายในปากสุดๆ และเมนูโรบาตายากิ เมนูย่างที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บรรยากาศร้านก็หรูหราอลังการมากๆ มีการตกแต่งที่ทันสมัย เน้นโทนสีเข้มๆ เหมาะสำหรับดินเนอร์มื้อพิเศษ หรือการมาสังสรรค์แบบมีสไตล์สุดๆ ส่วนราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป
Zuma Bangkok
- เวลาทำการ
จ.-พฤ., อา. 11:30–15:00 น. และ 18:00–1:00 น.
ศ.-ส. 11:30–15:00 น. และ 18:00–2:00 น.
- ที่อยู่
159 ถ. ราชดำริ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
20. Reiwa Soba Honten
มาถึงร้านสุดท้าย Reiwa Soba Honten ที่อาคาร One City Centre (OCC) ร้านนี้เป็นสวรรค์ของคนรักเส้นโซบะตัวจริง และที่ต้องลองเลยก็คือเส้นโซบะทำมือของร้าน ที่ทำจากแป้งบัควีท 100% ทำให้เส้นโซบะมีความพิเศษ กลูเตนฟรี และดีต่อสุขภาพมากๆ ทางร้านโม่แป้งและทำเส้นสดใหม่ทุกวัน ทำให้เส้นที่ได้มีความหนึบหนับเป็นเอกลักษณ์สุดๆเมนูโซบะมีให้เลือกหลากหลายมาก มีทั้งโซบะแบบเย็นและโซบะแบบร้อนน้ำซุปเข้มข้น ที่เคี่ยวจากน้ำซุปกระดูกโดยไม่ใส่ผงชูรส เมนูที่ต้องลองเลยคือเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Reiwa Pork Soba โซบะที่ให้ความเผ็ดร้อนถูกปากคนไทย นอกจากเมนูโซบะแล้ว ยังมีเมนูทานเล่นสไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกทานคู่กันด้วย เช่น ไก่ทอดคาราเกะ หรือข้าวหน้าปลาดิบรวม ร้านก็ตกแต่งสไตล์มินิมอล มีความน่ารักและอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่น มีห้องส่วนตัวให้บริการด้วย เหมาะสำหรับมาทานมื้อกลางวันที่อยากได้อะไรเบาๆ แต่อิ่มอร่อยมีคุณภาพ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 300-400 บาท
Reiwa Soba Honten
- เวลาทำการ
จ.-ส. 11:30–15:00 น. และ 17:00–21:00 น., ปิดทุกวันอาทิตย์
- ที่อยู่
ชั้น 2 One City Centre เลขที่ 548 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330