20 ร้านอาหารญี่ปุ่นแถวเพลินจิต ปักหมุดร้านอร่อย ฉบับอัปเดตล่าสุด

05.11.2025 (Updated: 12.11.2025)
20 ร้านอาหารญี่ปุ่นแถวเพลินจิต ปักหมุดร้านอร่อย ฉบับอัปเดตล่าสุด

เพลินจิต (Phloen Chit) เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมความอร่อย โดยเฉพาะร้านอาหารญี่ปุ่นที่ขนความอร่อยแบบต้นตำรับมาไว้ให้ได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นสายโอมากาเสะสุดหรู สายยากินิกุที่ชอบทานเนื้อคุณภาพดี หรือสานราเมงน้ำซุปเข้มข้น ที่นี่มีเสิร์ฟครบทุกสไตล์จริง ๆ ดังนั้นเราจึงได้รวบรวม 20 ร้านอาหารญี่ปุ่นแถวเพลินจิต ฉบับอัปเดตล่าสุดมาให้แล้ว เตรียมปักหมุดแล้วไปฟินกับรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ได้เลย

1. Yamazato Bangkok

ถ้าพูดถึงร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียมในย่านเพลินจิตที่สายกินต้องไม่พลาด ก็ต้องเป็นร้านยามาซาโตะ (Yamazato Bangkok) ที่ตั้งอยู่บนชั้น 24 ของโรงแรม The Okura Prestige Bangkok ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่บรรยากาศหรูหรา วิวสวยใจกลางเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นร้านที่ได้รับ Michelin Plate การันตีคุณภาพอีกด้วย ร้านนำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับตามฤดูกาล โดยเฉพาะอาหารสไตล์ไคเซกิ (Kaiseki) ที่เป็นเหมือนศิลปะการจัดสำรับอาหารชั้นสูงของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีโซนเทปันยากิ (Teppanyaki) ให้ได้ชมลีลาเชฟปรุงอาหารแบบสดๆ และซูชิบาร์ที่คัดสรรวัตถุดิบทะเลสดๆ ส่งตรงจากตลาดปลาโทโยสุมาให้ฟินกันถึงที่ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ  2,000 บาท ขึ้นไป

Yamazato Bangkok

영업시간

ทุกวัน 6:00–10:30 น., 11:30–14:30 น. และ 18:00–22:30 น.

주소

57 ถ. วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

2. Misho

ร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดี ราคาเข้าถึงง่ายในโซนเพลินจิต ต้องมาลองที่ Misho เลย ร้านนี้ซ่อนตัวอยู่ที่อาคารสินธร (Glasshouse at Sindhorn) ตัวร้านอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่บอกเลยว่าคุณภาพคับแก้ว คนญี่ปุ่นมาทานกันเยอะมากจนต้องโทรจองคิวเลยทีเดียว สิ่งที่ครองใจนักกินของร้านนี้ก็คือเซ็ตอาหารกลางวัน ที่มีให้เลือกหลากหลายเมนู แถมราคาก็ดีต่อใจมาก เริ่มต้นแค่หลักร้อยต้นๆ เท่านั้น ทุกชุดจะเสิร์ฟพร้อมข้าว ซุป ไข่ตุ๋น สลัด และเครื่องเคียงต่างๆ อีกอย่างที่ห้ามพลาดเด็ดขาดคือ เต้าหู้นมสดของที่นี่ ที่ใครๆ ก็ยกให้เป็นเมนูเด็ด เนื้อเต้าหู้นุ่มละมุนลิ้นมาก นอกจากเมนูเซ็ตแล้ว พวกซูชิ ซาชิมิ หรือข้าวหน้าปลาดิบพรีเมียมก็สดใหม่ ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน เป็นอีกตัวเลือกที่ลงตัวทั้งคุณภาพและราคาในย่านนี้เลย ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท

Misho

영업시간

อ.-ศ. 11:00–14:00 น. และ 17:00–21:00 น.

ส.-อา. 11:00–14:00 น. และ 16:00–20:00 น.

주소

130 ถ. วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

3. Rengaya

ใครที่มองหาร้านสไตล์ปิ้งย่างยากินิคุในย่านเพลินจิต ต้องมาโดนที่นี่เลย ร้านนี้ถือเป็นร้านปิ้งย่างในตำนานที่เปิดมานานกว่าสิบปี ตั้งอยู่ที่ตึกเพลินจิตเซ็นเตอร์นี่เอง รับประกันความฟินจากสูตรน้ำจิ้มเด็ดๆ และวัตถุดิบที่บินตรงมาจากโตเกียวเลยนะ ที่นี่มีให้เลือกทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู และซีฟู้ดสดๆ ใครเป็นสายเนื้อวากิวพรีเมียม บอกเลยว่าฟินแน่นอน นอกจากเนื้อจะดีงามแล้ว ลิ้นวัวหมักมิโสะของที่นี่ก็อร่อยจนหลายคนติดใจ สัมผัสหนึบๆ เคี้ยวเพลินสุดๆ อีกอย่างที่เด็ดไม่แพ้กันคือ เซ็ตอาหารกลางวัน ที่มีให้เลือกทั้งชุดปิ้งย่างและเมนูอื่นๆ เช่น กุ้งเทมปุระ แถมราคายังน่ารักด้วย ตกอยู่ที่คนละประมาณ 350-800 บาท

Rengaya

영업시간

매일 11:00~14:00, 17:00~22:00.

주소

อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ ชั้น B1 ห้องเลขที่ B 16 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10500

4. Tsu Japanese Restaurant

มาต่อกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียมอย่างร้าน Tsu Japanese Restaurant ที่อยู่ในโรงแรม JW Marriott Bangkok ตัวร้านตกแต่งอย่างดี มีคอนเซ็ปต์ที่ได้แรงบันดาลใจจากท่าเรือในญี่ปุ่น ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังทานอาหารอยู่ในเรือสำราญเลยล่ะ จุดเด่นที่นี่คือวัตถุดิบคุณภาพดีที่คัดสรรมาจากหลายภูมิภาคของญี่ปุ่น เช่น เนื้อวากิวพรีเมียม หรืออาหารทะเลสดๆ ที่นำมาปรุงด้วยเทคนิคดั้งเดิมผสานความร่วมสมัย เมนูแนะนำที่สายเนื้อต้องไม่พลาดคือ A5 Miyazaki Wagyu หรือ A4 Saga Rib Eye ย่างบนหินร้อนๆ ที่เสิร์ฟพร้อมซอสมิโสะ บอกเลยว่าเด็ดมาก ที่นี่ยังมีบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นแบบอะลาคาร์ทในมื้อกลางวันวันเสาร์และอาทิตย์ด้วย เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากสำหรับคนที่อยากทานอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีในบรรยากาศเป็นส่วนตัวแบบร้านอาหาร 5 ดาว ราคาต่อจะอยู่ที่ 1,000 บาท ขึ้นไป

Tsu Japanese Restaurant

영업시간

매일 11:30~14:30, 17:30~22:00.

주소

JW Marriott Hotel 4 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

5. Yoka Yoka

ใครที่อยากสัมผัสอาหารญี่ปุ่นรสชาติแบบฟุกุโอกะแท้ๆ ห้ามพลาดร้านนี้เลย ร้านนี้ตั้งอยู่ในโครงการร่วมฤดี วิลเลจ บรรยากาศจะออกแนวอบอุ่น โทนเข้มๆ เหมือนหลุดไปนั่งกินข้าวที่ญี่ปุ่นจริงๆ เลย ที่นี่นำเสนออาหารสไตล์ฟุกุโอกะ ซึ่งเป็นที่รู้จักด้านความอร่อยเข้มข้น มีเมนูเด็ดที่ไม่เหมือนใคร เช่น Hakata Mizutaki หรือหม้อไฟไก่สไตล์ฮากาตะ หรือจะเป็นข้าวอบหม้อดินหน้าปลาแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน ก็เป็นอีกเมนูที่ต้องลอง นอกจากนี้ ยังมีเมนูซูชิ ซาชิมิ  และเมนูพิเศษอื่นๆ ที่วัตถุดิบชั้นดีอีกเพียบ อย่างลิ้นวัวย่าง Gyutan Ganen Yaki ก็เป็นที่นิยมมาก ที่สำคัญคือช่วงเย็นร้านจะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นแนวอิซากายะให้ได้นั่งชิลล์ๆ ด้วย ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 250-500 บาท

Yoka Yoka

영업시간

매일 오전 11시~오후 11시.

주소

20/27-29, Ruamrudee Village,Soi Ruamrudee, ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

6. Nabezo Premium

ร้านชาบูชาบู-สุกี้ยากี้แบบพรีเมียมในย่านเพลินจิต บนชั้น 5 ห้า Central Embassy ที่นี่เสิร์ฟอาหารแบบคอร์สเหมือนไฟน์ไดนิ่ง โดยจะได้เลือกเซ็ตชาบูหรือสุกี้ยากี้ที่มาพร้อมเนื้อคุณภาพดีสุดๆ ตั้งแต่หมูคุโรบูตะไปจนถึงเนื้อวากิวเกรดพรีเมียมอย่าง เนื้อโอมิ (Oumi-Gyu) ที่นุ่มละมุนลิ้นแทบละลายในปาก พนักงานจะคอยดูแลและปรุงสุกี้ยากี้ให้แบบมืออาชีพ ในคอร์สไม่ได้มีแค่เนื้ออย่างเดียวนะ แต่มีทั้งเมนูเรียกน้ำย่อย ชุดผักสดหลากหลายชนิดที่เติมได้ไม่อั้น แถมยังมีเต้าหู้โฮมเมดเนื้อนุ่มนิ่มให้ฟินอีกด้วย ปิดท้ายด้วยเมนูข้าวหรืออุด้งที่ผัดคลุกกับน้ำซุปสุกี้เข้มข้น และของหวานอร่อยๆ เป็นการจบมื้อที่อิ่มและฟินแบบครบเครื่องสุดๆ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ1,000 บาท ขึ้นไป

Nabezo Premium

영업시간

매일 오전 11시~오후 10시.

주소

1453 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

7. Ki Izakaya

ร้านสไตล์กินดื่มบรรยากาศดีๆ บนชั้น 9 ของโรงแรม Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok ในย่านเพลินจิต ร้านตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เรียบหรู ดูดีมีสไตล์มากๆ แถมยังได้ชมวิวสวยๆ ของกรุงเทพฯ ด้วย เพราะฉะนั้นที่นี่ไม่ใช่ร้านอิซากายะธรรมดา แต่เป็นอิซากายะแบบพรีเมียม อาหารจะเน้นเมนูกินเล่นรองท้องสไตล์ญี่ปุ่นที่เข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่ม เมนูมีหลากหลายตั้งแต่ปิ้งย่างคุชิยากิ ซูชิ ซาชิมิ ไปจนถึงเมนูฟิวชั่นที่น่าสนใจอย่างเมนู ไอศกรีมยูซุผสมพริก (Ice Yuzu & Chilli) ที่รสชาติแปลกใหม่และสดชื่นมาก ที่นี่ยังมีเซ็ตอาหารกลาวันราคาดีให้บริการ มีให้เลือกทั้งเซ็ตเนื้อ (Niku Set) และเซ็ตปลา (Sakana Set) ที่มีสลัด ซุป และอาหารจานหลัก พร้อมชาเขียวในเซ็ต ในราคาที่ไม่แรงเกินไป เฉลี่ยแล้วจะตกอยู่ที่คนละประมาณ 1,000 บาท ขึ้นไป

Ki Izakaya

영업시간

ทุกวัน 12:00–15:00 น. และ 17:00–0:00 น.

주소

80 ซอย ต้นสน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

8. Sushi Zo

สายโอมากาเสะห้ามพลาด เพราะร้านนี้ดังมากๆ ถึงขนาดได้รับ Michelin Star มาแล้ว สาขาในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่ The Athenee Hotel ตรงถนนวิทยุ โอมากาเสะของที่นี่เน้นความสมบูรณ์แบบของซูชิสไตล์เอโดะมาเอะแบบดั้งเดิม เชฟที่นี่จะปรุงข้าวซูชิให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานความเปรี้ยวและความหวานได้อย่างลงตัว เพื่อดึงความอร่อยและความสดของเนื้อปลาที่คัดสรรมาอย่างดีที่สุดจากญี่ปุ่นในแต่ละวันออกมาให้ดีที่สุด ที่นี่จะเป็นแบบนั่งที่เคาน์เตอร์หินอ่อนหันหน้าเข้าหาเชฟอย่างใกล้ชิด โดยคอร์สโอมากาเสะจะเสิร์ฟซูชิและซาชิมิแบบคำต่อคำ ประมาณ 16-18 คำ ให้ได้ลิ้มรสชาติที่แตกต่างกันไปตามลำดับ แถมยังมีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง เทมากิหรือแฮนด์โรลที่เชฟทำสดๆ แล้วยื่นให้กินทันที เป็นไฮไลต์ที่หลายคนติดใจเลยล่ะ ราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ขึ้นไป

Sushi Zo

영업시간

จ.-ส. 12:00–14:00 น. และ 17:30–22:00 น., ปิดทุกวันอาทิตย์

주소

63 ถ. วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

9. Kisu Izakaya Phloen Chit

ร้านอิซากายะในอาคารมหาทุน พลาซ่า ใกล้ BTS เพลินจิต เรียกได้ว่าเป็นที่ประจำของชาวออฟฟิศเลย เพราะเดินทางสะดวกสุดๆ บรรยากาศภายในร้านก็เป็นกันเองมาก ๆ เมนูอาหารก็หลากหลาย เน้นพวกกับแกล้มที่กินคู่กับเบียร์หรือสาเกได้เพลินๆ ทั้งของเสียบไม้ย่าง ทาโกะยากิ หรือหนวดปลาหมึกผัดเกลือก็เป็นเมนูที่ถูกปากคนไทย นอกจากนี้ยังมีเมนูแนวฟิวชั่นอย่าง สปาเก็ตตี้แอนโชวี่ รสชาตินัวๆ เค็มๆ มันๆ หรือใครอยากกินให้อิ่มจริงๆ จังๆ ก็มีข้าวหน้าต่างๆ และราเมงให้สั่ง เป็นอีกร้านในย่านนี้ที่ราคาเข้าถึงง่าย เหมาะสำหรับมาเติมพลังความสุขหลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมากๆ ราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาท

Kisu Izakaya Phloen Chit

영업시간

จ.-ศ. 12:00–23:00 น., ปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์

주소

888/63 ถนน เพลินจิต ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

10. Sushi Niwa Bangkok

ร้านซูชิในย่านเพลินจิตที่มีกิมมิกเก๋ๆ ซ่อนตัวอยู่ในซอยร่วมฤดี 2 บรรยากาศสงบ เรียบหรู แต่มีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร เพราะที่นี่นำเสนอโอมากาเสะสไตล์เอโดะมาเอะที่เน้นความพิถีพิถันของเชฟและการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีที่สุดจากตลาดปลาในญี่ปุ่น แต่ที่ทำให้ร้านนี้พิเศษสุดๆ คือคอนเซ็ปต์ของร้าน ที่มีการใช้เทคโนโลยีฉายภาพแสดงเรื่องราวต่างๆ ลงบนเคาน์เตอร์บาร์ขณะทานอาหาร ทำให้มื้ออาหารเต็มไปด้วยความสนุกสนาน คอร์สโอมากาเสะของที่นี่มีให้เลือกหลายราคา โดยเชฟจะปั้นซูชิแบบสดใหม่ๆ คำต่อคำ และมีการปรับรสชาติให้เข้ากับวัตถุดิบตามฤดูกาล เมนูที่หลายคนประทับใจก็มีทั้ง ชูโทโร่ ไข่หอยเม่น และปลาไหลทะเลที่ย่างบนเตาถ่านหอมๆ รับรองว่าถูกใจคนชอบซูชิแน่นอนครับ ราคาเริ่มต้นคอร์สโอมากาเสะอยู่ที่ประมาณ 2,999++ บาท จนถึง 9,500++ บาท

Sushi Niwa Bangkok

영업시간

จ.-ศ. 12:00–23:00 น., ปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์

주소

888/63 ถนน เพลินจิต ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

11. Shogun

อีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานในย่านเพลินจิต ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 โดยเชฟชาวญี่ปุ่น และยังคงคุณภาพและรสชาติแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ที่นี่นำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่เน้นความพิถีพิถันและวัตถุดิบชั้นยอด เมนูที่พลาดไม่ได้คือ เทปันยากิ (Teppanyaki) ที่จะได้ชมเชฟปรุงเนื้อพรีเมียม กุ้งแม่น้ำ และซีฟู้ดสดๆ บนกระทะร้อนอย่างใกล้ชิด หรือจะเป็นซูชิและซาชิมิที่เชฟชาวญี่ปุ่นปั้นสดๆ ก็สดอร่อยตามมาตรฐานโรงแรมหรู เซ็ตอาหารกลางวันของที่นี่ก็ราคาดีงามมาก มีให้เลือกทั้งข้าวหน้าปลาไหล ชุดปลาดิบรวม หรือชุดสเต็กเนื้อสันใน บอกเลยว่าคุ้มสุดๆ สำหรับชาวออฟฟิศที่ต้องการมื้ออาหารดีๆ ในบรรยากาศหรูหราแต่ราคาสบายกระเป๋าในช่วงกลางวัน ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท ขึ้นไป

Shogun

영업시간

ทุกวัน 10:30–14:30 น. และ 16:30–21:00 น.

주소

130, 132 ถ. วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

12. Sato no Udon

ร้านอุด้งที่จะได้ซดน้ำซุปร้อนๆ กับเส้นเหนียวนุ่ม ร้านตัั้งอยู่ชั้น 3 ใน The Mercury Ville ติดรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต จุดเด่นของร้านอยู่ที่อุด้งเส้นสด ที่ทางร้านทำใหม่ทุกวัน เส้นจะเหนียวนุ่ม หนึบหนับกำลังดีมากๆ ยิ่งเมนูซารุอุด้ง ที่เสิร์ฟคู่กับซอสรสกลมกล่อม จะยิ่งสัมผัสได้ถึงความเด้งของเส้นแบบเต็มๆ คำเลย นอกจากนี้ยังมีอุด้งในซุปร้อนๆ ให้เลือกหลากหลาย ทั้งอุด้งแบบน้ำข้น หรืออุด้งน้ำซุปปลาโอแห้งแบบดั้งเดิมที่หอมกลมกล่อมมากๆ แถมบางเมนูสามารถขอเพิ่มเส้นอุด้งได้ฟรีด้วย นอกจากเมนูอุด้งแล้ว ที่นี่ก็มีเมนูอื่นๆ ที่น่าลองไม่แพ้กัน เช่น ข้าวแกงกะหรี่ เทมปุระ และเมนูฟิวชั่นอย่าง อุด้งคาร์โบนาร่า ร้านนี้มักมีลูกค้าชาวญี่ปุ่นมาทานเยอะ มั่นใจได้เลยว่ารสชาติค่อนข้างเป็นแบบต้นตำรับ ถูกใจสายญี่ปุ่นแน่นอน ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท

Sato no Udon

영업시간

매일 오전 10시~오후 9시.

주소

3rd Floor Mercury Ville, 540 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

13. Muteki by Mugendai

ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่นที่ทานง่าย ราคาไม่แรงมาก แถมมีของหวานเด็ดๆ ให้ปิดท้ายมื้ออร่อย ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 6 ของ Central Embassy จุดเด่นของร้านนี้คือเมนูอาหารที่หลากหลาย มีทั้งซูชิ ซาชิมิแบบคำๆ และอาหารจานเดียวที่โดนใจคนไทยสุดๆ เช่น ข้าวหน้าปลาดิบรวมหั่นเต๋า (Bara Chirashi) ราดซอสมายองเนสสูตรพิเศษ ที่ปลาดิบชิ้นใหญ่ คุณภาพดี หรือใครอยากทานของทอดก็มีชุดหมูทอดซอสมิโสะ (Buta Miso Katsu) ให้เลือกสั่ง และสิ่งที่ถูกใจใครหลาย ๆ คนก็คือ ซอฟท์ครีม โดยเฉพาะรสชาตินมฮอกไกโด ที่หวานมัน หอมนมมากๆ เป็นของหวานที่ต้องสั่งมาตบท้ายมื้ออาหารญี่ปุ่นได้อย่างลงตัวสุดๆ แถมราคาก็ไม่แรงเกินไป อยู่ที่คนละประมาณ 500-1,000 บาท

Muteki by Mugendai

영업시간

매일 오전 11시~오후 10시.

주소

1031 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

14. OKASAN Modern Izakaya & Bar

สำหรับสายแฮงเอาท์ จะพลาดร้านอิซากายะสไตล์โมเดิร์นที่มาพร้อมบรรยากาศสนุกๆ ในย่าน นี้ไปไม่ได้ ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยหลังสวน ใกล้กับเวลา สินธร วิลเลจ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของคนชอบกินดื่มที่มีครบจบในที่เดียว ร้านนี้ได้รวมเอาความเป็นอิซากายะยุคใหม่เข้ากับความเป็นเอนเตอร์เทนเมนท์ ร้านมีถึง 3 ชั้น มีที่นั่งหลากหลายมุม แต่ทีเด็ดก็คือ ห้องคาราโอเกะส่วนตัว บนชั้น 3 ที่รอให้มาโชว์พลังเสียงกับเพื่อนๆ แบบเต็มที่ ในส่วนของอาหารก็ไม่แพ้ เพราะมีเมนูสไตล์อิซากายะให้เลือกเยอะมากๆ ทั้งยากิโทริที่เริ่มต้นแค่หลักสิบ ซูชิ ซาซิมิสดๆ หรือจะเป็นเมนูที่ต้องลองอย่าง สปาเกตตี้เมนไทโกะ รสชาตินัว ๆ ไม่เลี่ยน นอกจากนี้ยังมีค็อกเทลและไฮบอลที่เป็นเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้านให้เลือกจิบด้วย ใครที่ชอบบรรยากาศร้านที่ดูดี อาหารอร่อย และมีที่ให้สนุกต่อ ที่นี่ตอบโจทย์แน่นอน ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท ขึ้นไป

OKASAN Modern Izakaya & Bar

영업시간

จ.-พฤ., อา. 17:00–1:00 น.

ศ.-ส. 17:00–2:00 น.

주소

94, 1-2 ถ. หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

15. MAiSEN

ร้านทงคัตสึระดับพรีเมียมที่ตั้งอยู่ชั้น 5 ห้าง Central Embassy เป็นร้านที่มีชื่อเสียงมากจากญี่ปุ่น ที่เตลมว่าทงคัตสึนุ่มมาก ๆ จนใช้ตะเกียบตัดให้ขาดได้ เมนูที่เป็นไฮไลต์ของร้านก็คือ หมูคุโรบุตะทงคัตสึสันในและสันนอก ที่ทอดมาได้กรอบนอกนุ่มใน เนื้อหมูข้างในฉ่ำสุดๆ และที่พลาดไม่ได้เลยคือซอสทงคัตสึสูตรพิเศษของทางร้าน ที่มีให้เลือกทั้งแบบเปรี้ยวและหวาน ราดลงบนหมูทอดร้อนๆ แล้วตักเข้าปากพร้อมกะหล่ำปลีฝอยที่เติมได้ไม่อั้น ฟินจนแสงออกปากเลยล่ะ ร้านยังมีเมนูเด็ดอื่นๆ อย่าง พ็อคเกตแซนวิชกุ้งคัตสึ และเมนูของหวานปิดท้ายอย่างเต้าฮวยฟรุตสลัดด้วยนะ เป็นร้านที่ตอบโจทย์ความอร่อยแบบครบจบในที่เดียว ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 400-500 บาท

MAiSEN

영업시간

매일 오전 10시~오후 9시.

주소

Central Embassy 5 floor 546/4 ถนน เพลินจิต Kwaeng Lumpini Khet Pathumwan กรุงเทพมหานคร 10330

16. ENISHI Thailand

ร้านนี้ไม่ได้มาเล่นๆ แต่พกดีกรี Michelin Bib Gourmand จากเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่นมาด้วย รางวัลนี้การันตีความอร่อย คุณภาพดี และราคาสมเหตุสมผลที่เข้าถึงง่าย ไฮไลต์ของร้านนี้คือ ราเมงเส้นสด ที่ทำสดใหม่ทุกวัน ตัวเส้นจะมีความหนา แบน และเหนียวนุ่มหนึบเป็นพิเศษ ซึ่งเชฟชาวญี่ปุ่นของร้านได้พัฒนาสูตรให้ถูกปากคนไทยโดยเฉพาะ เมนูที่ห้ามพลาดเลยคือ Dan Dan Noodle ราเมงแบบแห้งที่เครื่องแน่นมาก ทั้งหมูสับปรุงรส เป็ดชาชู หมูชาชู ผักดอง และถั่วต่างๆ รสชาติเข้มข้น จัดจ้านถึงใจ อีกเมนูที่หลายคนชอบคือ Japanese Dashi Ramen ราเมงน้ำซุปใส หอมกลิ่นปลาแห้ง และเปลือกส้มยูสุอ่อนๆ ซดแล้วสดชื่นมาก ที่สำคัญคือบนโต๊ะจะมี น้ำส้มสายชูหมัก 3 ชนิด ให้เราลองเหยาะเพิ่มรสชาติได้ตามชอบด้วยนะ ร้านตั้งอยู่ใน ตึก One City Centre (OCC) ชั้น 2 ราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 400-500 บาท

ENISHI Thailand

영업시간

ทุกวัน 11:00–15:00 น. และ 18:00–21:00 น.

주소

ชั้น 2 ยูนิต R2 โอซีซี – วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ 10 ถนน เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

17. KiSara

ห้องอาหารญี่ปุ่นสูตรต้นตำรับที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของโรงแรม Conrad Bangkok บรรยากาศของร้านเรียบหรู สวยงาม มีพนักงานใส่ชุดยูกาตะคอยต้อนรับ ที่นี่นำเสนออาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ผสานกับสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว มีเมนูให้เลือกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นซูชิ ซาชิมิ หรือจะเป็นอาหารชุดไคเซกิ (Kaiseki) ที่เน้นความพิถีพิถัน แต่ที่ว้าวมากๆ คือ เทปันยากิ (Teppanyaki) ที่เชฟจะมาโชว์ลีลาปรุงเนื้อวากิวญี่ปุ่นและซีฟู้ดชั้นเลิศให้ดูแบบสดๆ ที่เคาน์เตอร์ นั่งทานร้อนๆ ได้อรรถรสสุดๆ นอกจากนี้ ยังมีเมนูพิเศษที่คนรักปลาทูน่าต้องรีบไปลองคือ โอมากาเสะมากุโระ ที่รวบรวมเมนูจากปลามากุโระ หรือปลาทูน่ามาให้ฟินกันเต็มคอร์ส ในช่วงกลางวันก็มีเซ็ตมื้อกลางวันราคาคุ้มค่าให้เลือกทาน เป็นอีกร้านที่เหมาะกับทั้งมื้อธุรกิจและมื้อพิเศษกับคนสำคัญ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ขึ้นไป

KiSara

영업시간

ทุกวัน 11:30–14:30 น. และ 18:00–22:00 น.

주소

Level 3, 87/3 ถ. วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

18. Uraki Japanese Restaurant

มาต่อกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านเพลินจิต ที่รวมเอาความคุ้มค่าและความพรีเมียมไว้ด้วยกัน ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ All Seasons Place ตกแต่งสวยหรูสไตล์ ให้ฟีลเหมือนอยู่ญี่ปุ่นมากๆ สิ่งที่ร้านเป็นที่พูดถึงสุดๆ ก็คือ เป็นร้านที่สามารถเลือกกินและฟินได้แบบไม่จำกัดงบ ที่นี่มีคอร์สโอมากาเสะในราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงง่ายมากๆ นอกจากโอมากาเสะแล้ว เมนูอะลาคาร์ท และเซ็ตมื้อกลางวันก็ราคาดีงาม แถมให้ปริมาณเยอะมาก ทั้งโซบะ เทมปุระ อุด้ง หรือทงคัตสึ ก็เริ่มต้นแค่หลักร้อยต้นๆ แถมยังแถมขนมโมจิให้ตบท้ายอีกด้วย ร้านยังมีซูชิบาร์ในช่วงเย็น สามารถสั่งซูชิแบบปั้นสดๆ ทีละคำได้ตามใจชอบในราคาเริ่มต้นแค่หลักสิบเท่านั้น เป็นร้านที่ครบเครื่องมาก ตอบโจทย์ได้ทุกงบประมาณจริงๆ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 250-500 บาท สำหรับเซ็ตมื้อกลางวัน และ 1,000 บาทขึ้นไป สำหรับคอร์สโอมากาเสะ

Uraki Japanese Restaurant

영업시간

จ.-ศ., อา. 11:00–14:30 น. และ 17:00–21:00 น., ปิดทุกวันเสาร์

주소

303,304 (3rd Floor All Seasons Place 87 ถ. วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

19. Sushi Unitora Bangkok

ใครชอบทานเมนูหอยเม่นมาทางนี้เลย ร้านนี้เป็นสาขาแรกในประเทศไทยของ Tsukiji Itadori Unitora ร้านดังจากตลาดปลาซึกิจิ กรุงโตเกียว ที่ขึ้นชื่อเรื่องไข่หอยเม่น (Uni) โดยเฉพาะ ที่นี่เน้นความสดและคุณภาพของไข่หอยเม่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่นแบบวันต่อวัน เมนูที่ทุกคนต้องสั่งก็คือ Chopped Tuna & Two Kinds of Sea Urchin ที่จะได้ลิ้มลองไข่หอยเม่น 2 ชนิด วางมาแบบพูนๆ คู่กับเนกิโทโร่ที่เชฟสับสดๆ ต่อหน้า บอกเลยว่าทั้งหอมมัน เนียนนุ่ม ละมุนลิ้น ได้ลองแล้วติดใจแน่นอน ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ตึก One City Centre (OCC) บรรยากาศเป็นแบบซูชิบาร์เรียบหรู การบริการก็ใส่ใจดีมากๆ แถมเมนูหลักยังรวมของหวานปิดท้ายอย่างเต้าหู้หอมๆ เนื้อเนียนนุ่มไว้ให้ด้วยนะ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ขึ้นไป

Sushi Unitora Bangkok

영업시간

매일 11:30~14:30, 17:00~22:00.

주소

2F, One City Centre, 548/7 Phloen Chit Rd. Lumphini, Pathum Wan Bangkok10330, プルンチット, ルンピニ, เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

20. Hou Yuu

มาถึงร้านสุดม้าย ร้านอาหารญี่ปุ่น คุณภาพดี เมนูหลากหลาย และเดินทางง่ายในย่านเพลินจิต ร้านนี้ตั้งอยู่บนชั้น 1 อาคาร Park Ventures Ecoplex ที่เชื่อมต่อกับ BTS เพลินจิต เดินทางสะดวกมาก ที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ที่มีเมนูให้เลือกแบบครบเครื่องมากๆ ตั้งแต่ซูชิ ซาชิมิ ไปจนถึงเมนูย่าง ทอด และเมนูเซ็ตต่างๆ รสชาติโดยรวมทำได้ตามมาตรฐานญี่ปุ่นที่ดีเยี่ยม และวัตถุดิบก็มีความสดใหม่ โดยเฉพาะพวกปลาดิบต่างๆ ที่ทางร้านคัดสรรมาอย่างดี นอกจากเมนูอะลาคาร์ทแล้ว เซ็ตอาหารกลางวันของที่นี่ก็คุ้มค่าน่าลองมากๆ มีตัวเลือกเยอะ เช่น เซ็ตอุด้ง เซ็ตเทมปุระ เซ็ตข้าวหน้าต่างๆ หรือเซ็ตทงคัตสึ ราคาก็ไม่ได้สูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับทำเลและคุณภาพที่ได้รับ แถมทางร้านยังมีเมนูเบนโตะวางขายหน้าร้านด้วย ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาท สำหรับเซ็ตอาหารกลางวัน และ 500-1,000 บาท สำหรับเมนูอะลาคาร์ท

Hou Yuu

영업시간

매일 오전 10시~오후 9시.

주소

ห้องเลขที่ 105 ชั้น 1 อาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ เลขที่ 57, ถ. วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330