10 ร้านราเมง (Ramen) ใกล้สยาม เดินทางง่าย อัปเดตล่าสุด
ถ้ากำลังมองหาพิกัดร้านราเมงเด็ด ๆ ที่อร่อยเข้มข้นถึงใจ แถมเดินทางง่ายสะดวกสบายใจใกล้สยาม ห้ามพลาดอ่านเลย เพราะบทความนี้เราคัดมาให้เน้น ๆ 10 ร้านราเมงใกล้สยาม ที่รับประกันว่าดีงามทุกชาม พร้อมบอกจุดเด่น พิกัด และช่วงราคาต่อหัวแบบครบจบในที่เดียว แล้วเตรียมตัวไปซู้ดเส้น ซดน้ำซุปให้พุงกางได้เลย
1. Tonchin Ramen
ร้าน Tonchin Ramen สาขานี้เขามาเสิร์ฟความอร่อยระดับโลกถึงใจกลางสยามเลยล่ะ เมนูเด็กที่ห้ามพลาดคือ Tonchin Classic Tokyo Tonkotsu Ramen ที่น้ำซุปกระดูกหมูเคี่ยวนานกว่าสิบชั่วโมง ทำมห้น้ำซุปนั้นเข้มข้น หอมมัน นัวสุด ๆ แถมเส้นราเมงก็เป็นเส้นโฮมเมด ทำสด ๆ กับมือในร้าน เนื้อสัมผัสนุ่มหนึบกำลังดี ส่วนใครที่ชอบความแปลกใหม่ก็ต้องลองเมนู Tokyo Truffle Shoyu Ramen เมนูพิเศษที่มีขายแค่สาขาในไทยเท่านั้น ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น G ในสยามพารากอน ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-500 บาท บอกเลยว่าความอร่อยคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปแน่นอน
Tonchin Ramen
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:30–22:00 น.
- ที่อยู่
ชั้น G สยามพารากอน 991 ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
2. Tonkotsu Kazan Ramen
ถ้าอยากกินราเมงแบบร้อน ๆ ควันพุ่ง ๆ ต้องมาที่ Tonkotsu Kazan Ramen เลย เพราะจุดขายของร้านคือ ราเมงภูเขาไฟ ที่เสิร์ฟมาในชามหินร้อน ๆ มีฝาปิดเป็นกรวยเหมือนภูเขาไฟ พอเทน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้นลงไปปุ๊บ ควันก็จะพุ่งฟู่ ๆ เหมือนภูเขาไฟระเบิดเเลยล่ะ แถมยังได้ซดน้ำซุปแบบร้อน ๆ จนถึงคำสุดท้ายด้วยนะ นอกจากทงคตสึราเมงรสเข้มข้นแล้ว ร้านยังมีเมนูฟิวชั่นอย่าง Kazan Tom Yum เมนูราเมงรสแซ่บจัดจ้านแบบต้มยำบ้านเราอีกด้วย ใครหิวจัด ๆ ร้านก็มีให้เลือกทั้งไซส์เล็ก ไซส์ใหญ่ และหลัง 5 โมงเย็นยังเติมเส้นได้ฟรีอีกด้วยนะ คุ้มสุด ๆ ไปเลยว่าไหม ร้านตั้งอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 ส่วนราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท
Tonkotsu Kazan Ramen
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–21:00 น.
- ที่อยู่
979 Siam Center ชั้นที่ 2 ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
3. Yuzu Ramen
ถ้าอยากลองน้ำซุปราเมงแบบใหม่ ๆ ร้านนี้คือเจ้าแรกในไทยที่นำส้มยูซุมาผสมในน้ำซุปราเมง บอกเลยว่าสดชื่นไม่เหมือนใคร จุดเด่นของราเมงร้านนี้ คือ กลิ่นหอมและรสเปรี้ยวอมหวานนิด ๆ ของส้มยูซุที่ช่วยตัดเลี่ยนได้ดีมาก ทำให้ซดน้ำซุปได้คล่องคอจนหยดสุดท้าย เมนูเด็ดที่ต้องสั่งคือ Yuzu Shoyu Ramen หรือใครชอบความเผ็ด เมนู Spicy Yuzu Pork Belly Tonkotsu ก็เด็ดไม่แพ้กันนะ ร้านตั้งอยู่กลางสยามเลย ที่สยามสแควร์ ซอย 3 เดินทางง่ายสุด ๆ ส่วนราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท รับรองว่าได้ลองราเมงที่รสชาติแปลกใหม่และสดชื่นจนติดใจแน่นอน
Yuzu Ramen
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:30–22:00 น.
- ที่อยู่
9, เลขที่ 258, 10 สยามสแควร์ ซอย 3 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
4. Bankara Ramen
สำหรับใครที่ชอบทานราเมงรสชาติเข้มข้นสไตล์ญี่ปุ่น แบบไม่ต้องเกรงใจความมัน ขอแนะนำร้าน Bankara Ramen เลย เพราะไฮไลต์ของร้านนี้ ก็คือน้ำซุปกระดูกหมูทงคตสึที่เคี่ยวจนข้นสุด ๆ นี่แหละ ใครเป็นสายนี้ต้องเลิฟแน่นอน ส่วนเมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกคนต้องสั่งคือ Kakuni หมูสามชั้นตุ๋นจนนุ่มละลายในปาก ไม่ต้องเคี้ยวเลยก็ว่าได้ เด็ดสุด ๆ หรือถ้าใครอยากลองแบบแยกเส้นก็มีเมนูสึเคเมนให้เลือกด้วยนะ หรือถ้าใครกลัวจะมันไป ก็สามารถเลือกลดความเค็มหรือลดความมันของน้ำซุปได้ด้วย ที่สำคัญคือปริมาณให้เยอะสะใจ ชามเดียวอิ่มไปยันเย็นเลยล่ะ ร้านจะตั้งอยูที่ชั้น G สยามพารากอน ส่วนราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-500 บาท
Bankara Ramen
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–22:00 น.
- ที่อยู่
ชั้น G, สยามพารากอน ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
5. Ippudo
ร้านนี้เป็นราเมงสไตล์ฮากาตะในตำนาน ที่น้ำซุปทงคตสึรสชาติเข้มข้นถึงใจ มีเมนูราเมงที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้าน 2 เมนู ที่มาแล้วห้ามพลาดที่จะสั่งเด็ดขาด คือ Shiromaru Motoaji ราเมงน้ำซุปกระดูกหมูต้นตำรับ รสนุ่มนวลกลมกล่อม และ Akamaru Shinaji ราเมงซุปต้นตำรับที่เพิ่มความเผ็ดขึ้นมาเล็กน้อย และหอมกระเทียม ที่สำคัญคือสามารถเลือกระดับความแข็งของเส้นได้ตามชอบ และอีกอย่างที่โดนใจใครหลายคนก็คือ เครื่องเคียงที่เติมฟรีได้ไม่อั้น ทั้งถั่วงอก กระเทียมสด และขิงดอง ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น G ในสยามพารากอน ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาท เป็นอีกร้านที่ต้องมาซดราเมงให้ได้
Ippudo
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–21:30 น.
- ที่อยู่
ชั้น G สยาม พารากอน 991/1 ถ. พระรามที่ 1 ปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
6. Chabuton Ramen
ร้านนี้เป็นร้านราเมงของเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านราเมงระดับทีวีแชมเปี้ยน ใครที่ชอบความเข้มข้นแบบต้นตำรับญี่ปุ่นแท้ ๆ ต้องมาลอง จุดเด่นของราเมงของที่นี่ คือ น้ำซุปกระดูกหมูทงคตสึที่เคี่ยวอย่างพิถีพิถันนานกว่า 16 ชั่วโมง รสชาติจะเข้มข้น กลมกล่อม หอมมันถึงใจ เส้นราเมงก็นุ่มหนึบกำลังดี นอกจากเมนูต้นตำรับอย่างทงคตสึราเมงที่ต้องลองแล้ว ร้านยังมีเมนูฟิวชั่นสุดพิเศษที่รังสรรค์ออกมาเป็นรสชาติแบบไทย ๆ อย่าง ต้มยำราเมง รับรองว่ารสแซ่บถูกปากคนไทยแน่นอน แถมท็อปปิ้งก็จัดเต็มทั้งกุ้งลายเสือตัวโต ๆ พลาดไม่ได้เลยล่ะ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 4 สยามพารากอน ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท
Chabuton Ramen
- เวลาทำการ
จ.-ศ. 11:00–20:00 น.
ส.-อา. 11:00–21:00 น.
- ที่อยู่
991 ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
7. Ramenga
ถ้าอยากทานราเมงคุณภาพดี ราคาน่ารัก ๆ สักถ้วย ร้านนี้มาในคอนเซ็ปต์ราเมงรถเข็นแบบญี่ปุ่น แต่รสชาติและปริมาณนี่เกินราคาไปมาก จุดเด่นคือราเมงที่ราคาเริ่มต้นแค่หลักสิบ เมนูซิกเนเจอร์ของร้านอย่าง ทงคตสึราเมง ชามเล็กราคาแค่ 89 บาท แต่คุณภาพไม่เล็กเลย เพราะร้านให้หมูชาชูชิ้นใหญ่สะใจ น้ำซุปกระดูกหมูก็รสกลมกล่อม นัว ๆ ไม่เค็มโดด กินง่ายถูกปากคนไทย ที่ร้านมีให้เลือกทั้งเส้นราเมงแบบหนึบ ๆ หรือเส้นราเมงอะของทางร้าน แถมยังมีเมนูทานเล่นเด็ด ๆ อีกเพียบ เช่น ข้าวหน้าหมูชาชูพ่นไฟ หรือเกี๊ยวซ่า ใครที่มองหาราเมงอร่อย ๆ อิ่มท้องในราคาน่ารัก ๆ ต้องมาที่นี่เลย ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ในเซ็นเตอร์พอยท์ สยามสแควร์ หรือสาขาที่ MBK ก็มีนะ ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 79-250 บาทเท่านั้น
Ramenga
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–21:00 น.
- ที่อยู่
4th floor, 292 ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
8. Ramen Kagetsu Arashi
ร้าน Ramen Kagetsu Arashi เป็นร้านราเมงยอดนิยม Top 3 จากญี่ปุ่น และที่สำคัญคือเป็นร้านที่เสิร์ฟราเมงซุปคอลลาเจนเจ้าแรกในประเทศไทย เมนูไฮไลต์ของร้านก็คือ Arashi Genkotsu Ramen เมนูอันดับ 1 ของร้าน ที่น้ำซุปจะถูกเคี่ยวจากขาหลังหมูถึง 16 ชั่วโมง จนได้ซุปที่เข้มข้น หวานกลมกล่อม มีไขคอลลาเจนลอยอยู่ข้างบนน้ำซุป ทำให้ได้ซุปสีขาวนวลและอร่อยมาก ๆ แถมที่โต๊ะยังมีเครื่องปรุงให้เติมเพิ่มรสชาติได้อีกเพียบ ทั้งกระเทียมสดและซอสสูตรลับของร้าน ร้านตั้งอยู่ใจกลางสยามเลย ที่สยามสแควร์วัน ชั้น 4 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 200-300 บาท เป็นอีกร้านราเมงใหม่ ๆ ที่น่าลองมากเลยว่าไหมคะ
Ramen Kagetsu Arashi
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–21:00 น.
- ที่อยู่
4 floor, square one, แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
9. Hachiban Ramen
ถ้าพูดถึงร้านราเมงราคาคุ้มค่าและสามารถไปกินได้บ่อย ๆ ยังไงก็ต้องยกให้ฮะจิบังราเมง ร้านราเมงหมายเลข 8 เลย ร้านนี้เป็นขวัญใจคนไทยมานานมาก จุดเด่นคือรสชาติที่อร่อย เป็นมาตรฐาน ไม่ว่าจะไปกินสาขาไหนก็ได้รสชาติแบบเดิม และที่สำคัญคือราคาสบายกระเป๋ามาก เมนูที่ต้องสั่งก็คือ ฮะจังเมน ราเมงสูตรต้นตำรับที่จะได้ซดน้ำซุปกลมกล่อม ใครชอบแบบรสชาติจัดจ้านหน่อยก็มีเมนูทงคตสึ ต้มยำกุ้ง ราเมง ที่ผสมผสานความเป็นไทยได้อย่างลงตัว สำหรับใครที่ชอบทานราเมงแบบจุ่มก็จะพลาดเมนูเด็ดอย่าง ซารุราเมง ไปไม่ได้ และที่ขาดไม่ได้คือ เกี๊ยวซ่า สัมผัสกรอบนอกนุ่มใน เป็นเมนูเคียงที่ต้องสั่งมากินคู่กับราเมงเลยล่ะ ร้านฮะจิบังราเมง ใกล้ ๆ สยามมีให้เลือกหลายสาขามากทั้งที่สยามเซ็นเตอร์ สยามสแควร์วัน และ MBK เดินทางง่ายสุดๆ ด้วย BTS สยาม ราคาต่อหัวก็เป็นมิตรมาก เริ่มต้นที่ประมาณ 100-200 บาทเท่านั้น
Hachiban Ramen
- เวลาทำการ
ทุกวัน 10:00–22:00 น.
- ที่อยู่
979 ห้องเลขที่ 413 ชั้น 2 Siam Center ถ. พระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
10. Lust Ramen
ขยับออกมาไม่ไกลจากสยามที่บรรทัดทอง จะเจอกับร้าน Lust Ramen ร้านราเมงที่ดังเรื่องความสร้างสรรค์ของเมนูราเมงสุด ๆ จุดเด่นคือการเอาเมนูที่เราคุ้นเคยมาปรับเป็นราเมงได้อย่างลงตัว เช่น ราเมงต้มยำกุ้ง ที่ปรับจากเมนูอาหารประจำชาติของไทย หรือจะเป็นราเมงหม่าล่า ที่เผ็ดชาสะใจสายแซ่บ เส้นราเมงของร้านก็เหนียวนุ่มกำลังดี เครื่องแน่น ๆ ชิ้นใหญ่แบบสะใจ นอกจากราเมงแล้ว ยังมีเมนูอิซากายะ และข้าวหน้าต่าง ๆ ให้เลือกสั่งด้วย บอกเลยว่ามาที่นี่ได้ทานครบจบในที่เดียว ร้านตั้งอยู่ในสเตเดียมวัน (Stadium One) ส่วนราคาก็เป็นมิตรมาก เริ่มต้นที่ประมาณ 100-300 บาท ต่อคน
Lust Ramen
- เวลาทำการ
ทุกวัน 9:00–21:30 น.
- ที่อยู่
785 ถนน บรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
บทความแนะนำ
-
- สยาม
- บทความพิเศษ
13 ร้านยากินิกุใกล้สยาม ศูนย์รวมความอร่อยใจกลางเมือง
09.10.2025
-
- สยาม
- บทความพิเศษ
15 ร้านโอมากาเสะ แถวสยาม-สามย่าน อร่อยไปกับวัตถุดิบสุดพรีเมียม
06.10.2025
-
- สยาม
- บทความพิเศษ
40 ร้านอาหารญี่ปุ่นแถวสยาม ตั้งแต่ร้านราคาเข้าถึงง่ายไปจนถึงระดับพรีเมียม
19.08.2025
-
- สยาม
- บทความพิเศษ
รวม 10 ร้านซูชิแถวสยาม ตั้งแต่ราคาเข้าถึงได้จนถึงระดับพรีเมียม
22.07.2025
-
- อื่นๆ
- สยาม
- บทความพิเศษ
Gotochi Sushi: เพลิดเพลินไปกับเอกลักษณ์ของซูชิประจำแต่ละท้องถิ่น
26.05.2025