30 recommended Japanese restaurants, including famous restaurants, secret restaurants, and great restaurants that foodies must follow.

31.10.2025 (Updated: 12.11.2025)
30 ร้านอาหารญี่ปุ่นแนะนำ รวมร้านดัง ร้านลับ ร้านเด็ดที่สายกินต้องตามรอย

ถ้าพูดถึงอาหารที่ถูกปากคนไทยที่สุด หนึ่งในนั้นต้องมีอาหารญี่ปุ่นอยู่ในลิสต์แน่นอนใช่ไหมล่ะ ดังนั้น สายกินตัวจริงเตรียมท้องให้พร้อมด่วน เพราะบทความนี้เรารวบรวม 30 ร้านอาหารญี่ปุ่นแนะนำ ที่รวมเอาทุกสไตล์ความอร่อยไว้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นสายล่าร้านดังที่ใคร ๆ ก็พูดถึง หรือสายค้นพบร้านลับรสชาติต้นตำรับแท้ ๆ จากญี่ปุ่น หรือจะเป็นร้านเด็ด ๆ ที่ห้ามพลาดไปเช็คอิน ตามไปดูกันว่า 30 ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เราแนะนำ จะมีร้านไหนถูกใจจนต้องเก็บเข้าลิสต์บ้าง

1. Robata Kitaro Sushi KAGUYA

ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านแนกที่อยากจะแนะนำคือร้าน Robata Kitaro Sushi KAGUYA ที่ครบเครื่องทั้งซูชิและอาหารย่าง ร้านนี้เป็นร้านดังจากโอซาก้าที่มาเปิดที่ไทย จุดเด่นของร้านคือเทคนิคการย่างแบบโรบาตะยากิ (Robatayaki) เป็นการย่างอาหารทะเลและเนื้อวากิวแบบเสียบไม้ด้วยเตาถ่านแบบดั้งเดิม ทำให้ได้กลิ่นหอมฟุ้ง รสชาติเข้มข้น ไม่เหมือนใคร เมนูเด็ดที่ต้องสั่งก็คือ Tokusen Wagyu เนื้อวากิวพรีเมียมย่างมากำลังดี นุ่ม ชุ่มฉ่ำ ละมุนลิ้นสุด ๆ นอกจากนี้พวกซูชิซาชิมิ และอาหารทะเลย่างก็สดใหม่ไม่แพ้กัน บรรยากาศภายในร้านเก๋ไก๋น่าถ่ายรูปสุด ๆ แถมพนักงานก็บริการดีมาก เอาใจใส่ลูกค้าสุด ๆ เหมาะกับการมาดินเนอร์มื้อพิเศษ หรือจะมาสังสรรค์กับเพื่อนก็เริ่ด ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 มีที่จอดรถให้บริการฟรี ส่วนราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 1,500-2,000 บาทขึ้นไป

Robata Kitaro Sushi KAGUYA

Business hours

Every day 17:00–1:00 AM.

address

94, 1st Floor, Sukhumvit Soi 23, Khlong Toei Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/kitaro-kaguya/

2. Obanzai Kitaro

ร้านต่อมาที่อยากแนะนำ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โฮมมี่ ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนไปนั่งกินข้าวบ้านเพื่อนที่ญี่ปุ่นสุด ๆ ไฮไลต์ของร้านนี้ก็คือเมนูโอเด้ง (Oden) ร้อนๆ ที่ทำโดยชาวญี่ปุ่นเองเลย น้ำซุปโอเด้งของที่นี่คือดีงามมาก หอม กลมกล่อม รสชาติเข้มข้นแบบต้นตำรับจริง ๆ ที่สำคัญคือร้านเป็นสไตล์โอบันไซ (Obanzai) ที่เน้นเมนูง่าย ๆ เหมือนเป็นกับข้าวฝีมือแม่ที่มักจะวุ่นกับการทำอาหารให้ครอบครัวทาน เช่น นิคุจากะ (Nikujaga) เอ็นเนื้อตุ๋น และข้าวด้ง กินแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจสุด ๆ นอกจากนี้ ยังมีเมนูสไตล์อิซากายะให้สั่งมากินคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ เพลินๆ เช่น ปลาหมึกย่างสาเก หรือข้าวผัดไข่เมนไทโกะ ก็อร่อยกลมกล่อมไม่แพ้กัน ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 41 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 500-900 บาท

Obanzai Kitaro

Business hours

Every day 17:00–00:00

address

2/13 Sukhumvit Soi 41, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/kitaro-obanzai/

3. Kitaro Sushi Thonglor

คนรักเมนูซูชิห้ามพลาดร้าน Kitaro Sushi Thonglor เด็ดขาด ร้านนี้ส่งตรงมาจากโอซาก้าเลยนะ บอกเลยว่ามาแรงสุด ๆ ในหมู่คนญี่ปุ่นที่อาศัยในไทย จุดเด่นของที่นี่คือซูชินิกิริทุกหน้าราคาเดียวแค่ 60 บาทต่อคำ ฟังไม่ผิดหรอก ไม่ว่าจะเป็นชูโทโร่ ไข่หอยเม่น หรือไข่ปลาแซลมอนก็ราคานี้หมดเลย สามารถกินซูชิเกรดพรีเมียมได้แบบจุก ๆ เลยล่ะ วัตถุดิบที่นี่ก็สดใหม่มาๆ เพราะร้านขนตรงมาจากตลาดปลาที่โอซาก้าเลย แถมเชฟที่ปั้นก็เป็นคนญี่ปุ่นแท้ ๆ ปั้นข้าเป็นเม็ดสวย นุ่มกำลังดี นอกจากซูชิแล้วที่ร้านยังมีเมนูอื่น ๆ อีกเพียบ ทั้งซาชิมิ ของย่าง และของต้มสไตล์อิซากายะ ให้เลือกสั่งมากินแกล้มแบบครบเครื่อง ร้านอยู่ในซอยทองหล่อ 9 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่: เ 500-1,500 บาท โดยประมาณ

Kitaro Sushi Thonglor

Business hours

ทุกวัน 18:00–3:00 น.

address

161/2 ถนน สุขุมวิท Klongtan Nua เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/kitaro-sushi-thonglor/

4. Shakariki 432 Emsphere

สำหรับสายปาร์ตี้หรือคนที่ชอบบรรยากาศคึกคัก ขอแนะนำร้าน Shakariki432 Emsphere เลย ร้านอิซากายะชื่อดังจากโอซาก้า ที่รับประกันความสนุกและเมนูที่หลากหลายแบบจุก ๆ จุดขายของร้านคือบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา และเมนูอาหารที่มีให้เลือกมากกว่า 200 อย่าง ไม่ว่าจะเป็นของทอดเสียบไม้ ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ หรือจะเป็นซูชิ ซาชิมิที่สดใหม่ก็มีครบหมด ที่นี่เปิดบริการยาว ๆ ถึงตี 5 เลยนะ ตอบโจทย์คนนอนดึกสุด ๆ แถมยังเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้ ที่นี่มีห้องคาราโอเกะส่วนตัวให้ได้กิน ดื่ม และร้องเพลงแบบจัดเต็ม ใครชอบความหลากหลาย ความสนุก และอาหารญี่ปุ่นแบบรสชาติต้นตำรับแท้ ๆ ร้านนี้คือคำตอบ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 5 เอ็มสเฟียร์ ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ 500 บาทขึ้นไป โดยประมาณ

Shakariki 432 Emsphere

Business hours

Every day 11:00 AM–5:00 PM.

address

5th Floor, Room No. 5D 03, Msphere Shopping Center Building, 5 Sukhumvit Road, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Khlong Toei District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/shakariki432-emsphere/

5. NEO Shakariki 432 thonglor

อีหนึ่งร้านอิซากายะที่อยากแนะนำ คือ NEO Shakariki432 Thonglor ร้านนี้ก็อยู่ในเครือชาการิกิ แต่ยกระดับความสนุกสนานของอิซากายะไปอีกขั้น เหมาะกับสายปาร์ตี้สุด ๆ ส่วนเรื่องอาหารที่นี่ก็ยังจัดเต็มเช่นเคย มีเมนูอาหารให้เลือกเยอะมากกว่า 150 เมนู ทั้งอาหารสไตล์โอซาก้าอย่าง ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ คุชิคัตสึ ไปจนถึงซูชิและซาชิมิที่ใช้ปลาสดใหม่ แถมยังมีห้องคาราโอเกะส่วนตัว ทั้งเพลงญี่ปุ่นและเพลงไทย ให้ได้ร้องเพลง ปาร์ตี้ สังสรรค์กันแบบเป็นส่วนตัวสุด ๆ อีกเรื่องที่สายกินดึกเลิฟคือร้านนี้เปิดตั้งแต่ 11 โมง ยาวไปจนถึง 7 โมงเช้าของอีกวันเลย ถือเป็นสวรรค์ของคนชอบเที่ยวกลางคืนในย่านทองหล่อเลยจริง ๆ สามารถเดินจาก BTS ทองหล่อ มาทีร้านได้ใน 10-15 นาที ส่วนราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 500 บาทขึ้นไป

NEO Shakariki 432 thonglor

Business hours

ทุกวัน 0:00–7:00 น. และ 11:00–0:00 น.

address

159 Thonglor Road, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/shakariki432-thonglor/

6. Kappo Tomo

สำหรับใครที่อยากอัปเลเวลความฟินในการทานร้านอาหารญี่ปุ่น ขอแนะนำร้าน Kappo Tomo ที่นี่ไม่ใช่แค่ร้านโอมากาเสะซูชิธรรมดา แต่เป็นร้านสไตล์คัปโปะ (Kappo) ที่เชฟจะรังสรรค์เมนูต่าง ๆ ด้วยเทคนิคการปรุงที่หลากหลาย และการนำเสนอที่สวยงามรวมอยู่ในคอร์สอาหารด้วย ที่นี่เน้นวัตถุดิบตามฤดูกาลที่ส่งตรงมาจากตลาดปลาในญี่ปุ่น ทำให้เมนูจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามความสดใหม่ของวัตถุดิบแต่ละช่วงเวลา ระหว่างที่ทานจะได้เห็นเชฟปรุงอาหารแต่ละจานอย่างพิถีพิถันตรงหน้า เหมาะมากสำหรับมื้อพิเศษหรือการพาคนสำคัญมาฉลองความอร่อยที่เหนือระดับ ที่นี่มักจะมีทั้งคอร์สโอมากาเสะและเมนูอะลาคาร์ทให้เลือกตามความชอบด้วยนะ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โครงการเรนฮิลล์ (Rain Hill) ราคาคอร์สเริ่มต้นที่ 2,900 บาทขึ้นไป

Kappo Tomo

Business hours

Every day 12:00–22:00

address

1F, Rain Hill 777 ซอย สุขุมวิท 47 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/kappo-tomo/

7. Genpukan Thonglor

มาต่อกันที่ร้าน Genpukan Thonglor ร้านยากินิกุที่สายปิ้งย่างจะพลาดไม่ได้ ร้านนี้คือตำนานปิ้งย่างจากเมืองฮากาตะ ที่มีประวัติยาวนานกว่า 60 ปี และโด่งดังเรื่องรสชาติแบบต้นตำรับ และสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ซอสสูตรพิเศษของทางร้าน ซอสสีแดงเข้มที่ดูเหมือนจะเผ็ดแต่กลับมีรสชาติกลมกล่อมเข้าเนื้อสุด ๆ เมนูที่ห้ามพลาดคือ โทคุโจ คารุบิ (Tokujo Karubi) เนื้อซี่โครงส่วนพิเศษที่เป็นเนื้อคุโรเกะวากิวจากฮอกไกโด นุ่ม ชุ่มฉ่ำ และละลายในปากจริง ๆ นอกจากนี้ ลิ้นวัวของที่นี่ก็นุ่มเป็นพิเศษ ไม่เหนียวเลยแม้แต่น้อย บรรยากาศร้านสบาย ๆ มีห้องส่วนตัวสำหรับคนที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ด้วย ระบบดูดควันก็ดีเยี่ยม ไม่ต้องกลัวหัวเหม็นเลย และที่เซอร์ไพรส์คือเมนูเครื่องดื่มและแอลกอฮอล์ของเขาก็ราคาดี ทำให้กินเนื้ออร่อย ๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มเพลิน ๆ ได้ฟินสุด ๆ ราคาต่อเริ่มต้นที่ประมาณ 800-1,000 บาทขึ้นไป

Genpukan Thonglor

Business hours

Every day 12:00–00:00

address

41, 43 Thonglor Road, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/genpukan-thonglor/

8. Sushi Kappou Ishimoto

ใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ ขอแนะนำ Sushi Kappou Ishimoto ร้านนี้ซ่อนตัวอยู่ในโรงแรม Hotel Nikko Bangkok ย่านทองหล่อ บรรยากาศภายในร้านดูดีและเป็นส่วนตัวมาก ๆ ที่นี่นำเสนออาหารแบบคัปโปะ โอมากาเสะ ที่เชฟจะใช้เทคนิคต่างๆ ในการปรุงอาหาร โดยเน้นวัตถุดิบตามฤดูกาลที่เชฟคัดสรรมาอย่างดีและส่งตรงมาจากญี่ปุ่น โดยเฉพาะปลาและอาหารทะเลที่สดสุ ดๆ อาหารแต่ละจานจะถูกจัดวางอย่างสวยงามราวกับงานศิลปะ ทำให้มื้อนี้เป็นมากกว่าแค่การกิน แต่เป็นการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น ร้านมีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ ให้ได้ชมเชฟปรุงอาหารอย่างใกล้ชิด และมีห้องส่วนตัวสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย เหมาะมากสำหรับการฉลองโอกาสพิเศษ หรือการรับรองแขกคนสำคัญ ราคาต่อหัวโดยเริ่มต้นที่ประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป

Sushi Kappou Ishimoto

Business hours

Every day 17:00–22:00

address

Room 301, Hotel Nikko Bangkok 3rd Fl, 27 Thonglor Rd., Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/sushi-kappou-ishimoto/

9. Sushi Sekiji

อีกหนึ่งร้านโอมากาเสะซูชิที่อยากแนะนำ คือ Sushi Sekij ร้านโอมากาเสะคุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้ ร้านนี้เป็นร้านดังในย่านสีลม เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นร้านโอมากาเสะที่ราคาเริ่มต้นไม่สูง แต่ได้วัตถุดิบที่คัดมาอย่างดีและมีความสดใหม่มาก ๆ ปลาที่นี่คุณภาพดี ให้ชิ้นใหญ่แบบเน้น ๆ ไม่หวงของ แถมเชฟยังน่ารักและสุภาพมาก คอยอธิบายเมนูต่าง ๆ อย่างละเอียด ทำให้การกินโอมากาเสะไม่รู้สึกเกร็งเลย เมนูที่หลายคนติดใจก็คือ ซูชิในแก้วค็อกเทล ที่รวมเอาอูนิ เนกิโทโร่ และอิคุระไว้ในถ้วยเดียว บรรยากาศร้านก็อบอุ่น เป็นกันเอง เหมาะกับการมาฉลองเล็กๆ หรือมากับเพื่อนที่ชอบอาหารญี่ปุ่นแบบจริงจัง คอร์สโอมากาเสะเริ่มต้นที่ 1,500 บาทขึ้นไป แต่ถ้ามีเมนูที่อยากกินโดยเฉพาะก็สามารถสั่งทานแบบอะลาคาร์ทได้ด้วยนะ

Sushi Sekiji

Business hours

Every day 17:00–23:00

address

62/5-6, Silom Road, Suriyawong Subdistrict, Bang Rak District, Bangkok 10500

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/sushi-sekiji/

10. Kappo Hisa

ขอแนะนำเพิ่มอีกหนึ่งร้านโอมากาเสะสไตล์คัปโปะ ที่โดดเด่นเรื่องความหลากหลายของเมนูที่รังสรรจากวัตถุดิบตามฤดูกาลที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เชฟฮิสะ (Hisa) เจ้าของร้านชาวญี่ปุ่นจะลงมือทำอาหารเอง เสิร์ฟเอง และเอนเตอร์เทนเก่งสุด ๆ ทำให้บรรยากาศการทานอาหารไม่เงียบ แต่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเอง เมนูซิกเนเจอร์ที่ห้ามพลาดคือ Sesame Tofu เต้าหู้งาราดซอสที่เนื้อเนียนนุ่ม หวานมันหอมงามาก หรือจะเป็น Abalone Udon ที่ผัดกับซอสตับเปาฮื้อเข้มข้นก็เป็นเมนูที่ติดใจใครหลายคน ร้านนี้ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวและอบอุ่นมาก และที่นี่จะรับจองเป็นรอบ ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้นั่งทานแบบเต็มที่และเพลิดเพลินกับทุกคอร์สที่เชฟจัดมาให้ ถือเป็นร้านที่คุ้มค่ากับราคาสำหรับประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมจริง ๆ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น G โครงการมายล์ มอลล์ (Mille Malle) ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ 4,600 บาทขึ้นไป

Kappo Hisa

Business hours

Every day 12:00–14:00 and 17:00–21:00

address

66/4 mile malle sukhmvit20 g floor room103, Soi Phaisingto sukhmvit20, Khlong Toei District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/kappo-hisa/

11. Hiroshima Pizza Okonomiyaki

ร้านต่อไปที่อยากแนะนำ ขอพามาลองความอร่อยแบบสตรีทฟู้ดที่ Hiroshima Pizza Okonomiyaki ร้านนี้จะทำให้ลืมโอโคโนมิยากิแบบโอซาก้าไปเลย เพราะนี่คือร้านโอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่าที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร จุดเด่นของโอโคโนมิยากิสไตล์ฮิโรชิม่าคือ การวางซ้อนเป็นชั้น ๆ โดยมีส่วนประกอบหลักคือแป้ง กะหล่ำปลี เนื้อสัตว์ ไข่ และที่ขาดไม่ได้เลยคือเส้น สามารถเลือกได้ว่าจะใส่เส้นโซบะหรือเส้นอุด้ง ส่วนแป้งจะบางกว่าสไตล์โอซาก้า แต่เครื่องจะแน่นกว่า และที่พลาดไม่ได้เลยคือกะหล่ำปลีของร้านนี้ ที่หวานกว่ากรอบกว่าที่ไหน ๆ ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและรสสัมผัสที่ซับซ้อน ครัวที่นี่เป็นครัวแบบเปิด มีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ ให้ได้ชมเชฟทำอาหารร้อน ๆ บนเตาเหล็กตรงหน้า นอกจากโอโคโนมิยากิแล้ว ก็ยังมีเมนูอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น ยากิโซบะ แฮมเบิร์ก และสเต๊กเนื้อวากิว ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49/11 ราคาต่อจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท

Hiroshima Pizza Okonomiyaki

Business hours

จ.-ศ. 16:00–0:00 น.

Sat.-Sun. 11:00 AM–11:00 PM

address

ซอยพร้อมพุก 12/14 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/hiroshima-pizza-okonomiyaki/

12. Hinata Izakaya

สำหรับสายชิลล์หลังเลิกงานที่กำลังมองหาร้านอิซากายะนั่งชิลล์แถวสุทธิสาร ขอแนะนำร้าน ฮินาตะ เลย เมนูอาหารของที่นี่คงความเป็นต้นตำรับมาก ๆ มีลูกค้าคนญี่ปุ่นมานั่งเม้าท์มอยกันอย่างคึกคัก การันตีความอร่อยจริง ๆ เมนูที่ไม่ควรพลาดเลยคือ คุชิยากิ (Kushiyaki) และ คุชิอาเกะ (Kushiage) หรือก็คืออาหารเสียบไม้ทั้งแบบย่างและแบบทอด ที่ราคายังน่ารักมาก ๆ เริ่มต้นแค่ 20-60 บาทต่อไม้เท่านั้น กินคู่กับเครื่องดื่มเย็น ๆ คือฟินสุด ๆ อีกเมนูแนะนำที่อยากให้ทุกคนสั่งคือ ลิ้นวัวน้ำพริกมิโสะ และยากิโซบะห่อไข่ อร่อยจนต้องสั่งซ้ำเลยล่ะ แต่นอกจากจะเป็นสถานที่แฮงค์เอาท์ยามค่ำคืนแล้ว ช่วงกลางวันร้านก็เสิร์ฟเมนูอาหารกลางวันราคาน่ารักสำหรับชาวออฟฟิศด้วยนะ สามารถเดินทางมาที่ร้านโดยลงที่สถานีสุทธิสาร ทางออก 2 หรือ 3 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 200 บาท

Hinata Izakaya

Business hours

จ.-ส. 11:30–14:30 น. และ 17:30–23:30 น.

Sun. 12:00–22:00

address

ถ. สุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/hinata-izakaya-sutthisan/

13. Ma MAISON

ร้านต่อมาขอแนะนำร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ตะวันตก Ma MAISON ร้านนี้นำเสนอเมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์ตะวันตก หรือที่เรียกว่า Youshoku ที่เป็นที่นิยมมาก ๆ ในญี่ปุ่น เมนูซิกเนเจอร์และโด่งดังสุดๆ คือ Omurice หรือข้าวห่อไข่สูตรต้นตำรับกว่า 40 ปีจากนาโกย่า ข้าวผัดที่นี่จะถูกห่อด้วยไข่ที่นุ่มเนียนราวกับผ้าไหม ราดด้วยซอสเดมิกลาสสูตรเฉพาะของร้านที่เข้มข้น กลมกล่อม ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีเมนูสไตล์ญี่ปุ่น-ตะวันตกอื่น ๆ ที่น่าลอง เช่น สปาเก็ตตี้นโปลิตัน หรือแกงกะหรี่ญี่ปุ่นรสชาติดี ร้านมีบรรยากาศสบาย ๆ ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูดีเหมือนมาทานอาหารที่บ้านเพื่อนในญี่ปุ่น ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนญี่ปุ่นเองก็ชอบแวะมาทานร้านนี้ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ดองกิ มอลล์ ทองหล่อ (Donki Mall Thonglor)  ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 200 บาท

Ma MAISON

Business hours

Every day 11:00 AM–9:00 PM.

address

Room 304 3rd Fl, 107 Soi Sukhumvit 63, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/mamaison-bangkok/

14. KUMA NO YAKITORI

ถ้าคิดว่ายากิโทริเป็นแค่เมนูธรรมดา ๆ ขอให้คิดใหม่ เพราะร้านที่เราแนะนำนี้จะพาทุกคนไปสัมผัสโอมากาเสะยากิโทริระดับไฮเอนด์ ที่ญี่ปุ่นร้านนี้ดังถึงขนาดต้องเป็นเมมเบอร์เท่านั้นถึงจะได้ทาน แถมค่าสมาชิกยังราคาสูงลิ่ว จุดเด่นของร้านคือการใช้ไก่เป็นวัตถุดิบหลักในคอร์สโอมากาเสะ แต่เชฟจะนำทุกส่วนของไก่มาปรุงอย่างพิถีพิถัน ด้วยเทคนิคการย่างถ่านที่เทพมาก ๆ ทำให้เนื้อไก่ทุกไม้มีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมนูที่ว้าวสุด ๆ คือ หัวใจไก่ย่าง ที่นุ่มละมุนจนไม่น่าเชื่อ หรือจะเป็นเมนู Tamago Kake Gohan ข้าวสวยร้อนๆ ท็อปด้วยไข่ไก่คัดพิเศษ โปะด้วยอูนิและอิคุระแบบพูน ๆ ก็ฟินจนแสงออกปากเลยล่ะ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โครงการเรน ฮิลล์ (Rain Hill) สุขุมวิท 47 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 2,800++ บาท

KUMA NO YAKITORI

Business hours

Mon.-Sat. 5:00 PM–10:30 PM, Closed every Sunday

address

Rain Hill, 1F, 777 Sukhumvit Soi 47, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/kuma-no-yakitori/

15. SUNNY MAN

มาต่อกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในฝั่งธนฯ ร้าน SUNNY MAN ที่อยู่ในย่านเจริญนคร จุดเด่นของร้านคือเมนูสไตล์อิซากายะแบบโฮมเมดที่ปรุงโดย ทาเคมิซัง เจ้าของร้านและเชฟชาวญี่ปุ่นจากโอคายาม่า ซึ่งมีประสบการณ์ทำอาหารในไทยมานานกว่า 10 ปี ทำให้ทุกเมนูมีรสชาติที่กลมกล่อมและเข้าถึงง่าย เมนูแนะนำที่สายกินพลาดไม่ได้คือ ยากิโซบะ รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน และปลาซาบะย่าง ที่ส่งตรงความสดใหม่มาจากฮอกไกโด นอกจากนี้ยังมีเมนูคุชิยากิ หรือเมนูเสียบไม้ย่างที่ราคาเริ่มต้นไม่แรง ให้สั่งมากินคู่กับเบียร์สดด้วย ร้านนี้ยังมีโปรโมชั่นวันเกิดสุดปัง ที่ใครเกิดในเดือนนั้น ๆ เพียงแค่จองล่วงหน้า 2 วัน ก็จะได้รับปีกไก่ทอดฟรี จำนวนเท่ากับอายุเลย เป็นกิมมิกที่น่ารักและคุ้มค่ามาก ๆ ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 500 บาท

SUNNY MAN

Business hours

Every day 17:00–23:00

address

1583, 1585 ถ. เจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง คลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/sunny-man/

16. Rockmen 69men

ถ้าหลงใหลในรสชาติของราเมงล่ะก็ ต้องมาพิสูจน์ความอร่อยที่ร้าน Rockmen 69men ร้านราเมงที่ไม่ลับในย่านทองหล่อ ร้านนี้การันตีความเด็ดด้วยการจำกัดจำนวนขายแค่ 69 ชามต่อวัน เท่านั้น เพราะเชฟจริงจังและพิถีพิถันในการทำราเมงทุกชาม ตั้งแต่น้ำซุปไก่ (Chintan) ที่ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงในการเคี่ยวจนได้ความอุมามิที่กลมกล่อม แต่ไม่หนักจนเกินไป ทำให้สามารถซดได้หมดชามแบบไม่เลี่ยน นอกจากนี้ยังมีซุปอีกหลายแบบให้เลือก เช่น ซุปเกลือที่ใช้เกลือจากโอกินาวา และซุปโชยุสูตรลับของร้านที่รสเข้มข้นลุ่มลึก เส้นราเมงก็เป็นเส้นราเมงที่ทางร้านทำเอง มีความเหนียวนุ่มและหนึบหนับกำลังดี รวมถึงท็อปปิ้งทุกอย่างก็เป็นแบบโฮมเมดทั้งหมด ทั้งหมูชาชูชิ้นโต และไข่ต้มดองซีอิ๊ว แค่เห็นเชฟชาวญี่ปุ่นบรรจงทำอาหารตรงหน้าเคาน์เตอร์ก็รู้ได้เลยว่านี่คือราเมงที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ เป็นร้านที่คุ้มค่าแก่การมาต่อคิวมาก ๆ ร้านตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 13 ติดกับซอยไปดีมาดีกลาง ราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาท

Rockmen 69men

Business hours

จ.-ศ. 12:00–15:00 น. และ 18:00–0:00 น.

Sat.-Sun. 12:00 PM–12:00 AM

address

44 11 Soi Akapat Sukhumvit 55 Rd, แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/rockmen-69men/

17. TORIHADA

ร้านต่อไปที่อยากแนะนำคือร้าน TORIHADA เป็นอิซากายะชื่อดังจากโตเกียว ที่เน้นใช้ไก่เป็นวัตถุดิบหลักในการรังสรรค์เมนูที่หลากหลาย จุดเด่นของร้านคือเมนูยากิโทริ หรือไก่ย่างเสียบไม้ที่ใช้ไก่คุณภาพดีและใช้ทุกส่วนของไก่ ตั้งแต่เนื้อ น่อง ปีก หัวใจ ตับ กึ๋น ไปจนถึงส่วนที่หาทานยากอย่าง รังไข่ หรือหลอดเลือด ทุกส่วนถูกย่างบนเตาถ่านด้วยความพิถีพิถันจนได้ความสุกที่พอดี หนังกรอบ เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย นอกจากยากิโทริแล้ว เมนูอื่น ๆ ก็เด็ดไม่แพ้กัน เช่น Torihada Nabe เมนูหม้อไฟที่น้ำซุปไก่ขาวเข้มข้นจากการเคี่ยวนานกว่า 8 ชั่วโมง หรือแม้แต่ข้าวหน้าไก่ไข่ ก็เป็นเมนูฮิตที่คนญี่ปุ่นชอบสั่ง บรรยากาศร้านเป็นสไตล์อิซากายะ กินดื่ม มีความคึกคัก เหมาะกับการมานั่งชิลล์หลังเลิกงานกับเพื่อน ๆ และร้านก็มีเมนูมื้อเที่ยงราคาน่ารักให้ชาวออฟฟิศได้ลองช่วงกลางวันด้วยนะ ร้านตั้งอยู่ในตึก UBC2 สุขุมวิท 33 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 500 บาท

TORIHADA

Business hours

จ.-ศ. 11:30–14:00 น. และ 17:30–22:30 น.

ส.-อา. 11:30–15:00 น. และ 17:30–22:30 น.

address

UBC2 591 Building, Sukhumvit Road, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/torihada/

18. Sakura Saku

มาที่ร้าน Sakura Saku ร้านนี้เป็นที่รู้กันในหมู่คนญี่ปุ่นว่ามีสุกี้ยากี้รสชาติต้นตำรับที่อร่อยสุด ๆ  เมนูที่ไม่ควรพลาดสั่งเลยคือ Sukiyaki Wagyu Set สุกี้ยากี้เนื้อวากิวที่ใช้เนื้อวากิวพรีเมียมที่ทางร้านคัดมา นำมาต้มในซุปสุกี้ยากี้สูตรเข้มข้น รสชาติหวานเค็มกลมกล่อมเข้าเนื้อสุด ๆ จุ่มกับไข่ดิบสด ๆ แล้วเอาเข้าปากคือฉ่ำมาก นอกจากนี้ยังมีเมนูสไตล์อิซากายะอื่น ๆ ให้เลือกอีกเพียบ เช่น Dai Tonteki สเต็กหมูย่างชิ้นใหญ่ หรือ Unagi Nagayaki เมนูปลาไหลย่างที่ได้ปลาไหลชิ้นเบิ้ม บรรยากาศภายในร้านมีความเป็นส่วนตัวมาก มีห้องส่วนตัวหลายขนาดให้เลือก เหมาะกับการมาดินเนอร์กับคู่รัก หรือมาสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนแบบเป็นส่วนตัวมาก ๆ แถมร้านยังเปิดบริการเฉพาะช่วงเย็นจนถึงเที่ยงคืน ทำให้เป็นอีกหนึ่งร้านลับที่สายกินดึกไม่ควรพลาด ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ 500-1,000 บาทขึ้นไป

Sakura Saku

Business hours

Mon.-Sat. 5:00 PM–12:00 AM, Closed every Sunday

address

22 Sukhumvit 31, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/sakura-saku/

19. YAKINIKU HIROSHIMA

สำหรับคนรักเมนูเนื้อที่อยากทานคุณภาพเนื้อดีในราคาที่สมเหตุสมผล ขอแนะนำร้าน YAKINIKU HIROSHIMA เลย จุดเด่นของที่นี่คือ เนื้อย่างยากินิกุคุณภาพเยี่ยม โดยเฉพาะเมนูเนื้อวากิวและเนื้อส่วนต่าง ๆ ที่ทางร้านคัดสรรมาอย่างดี เนื้อมีความนุ่มชุ่มฉ่ำ ลายสวย นำมาย่างบนเตาถ่านแบบไร้ควัน ทำให้ได้กลิ่นหอมกรุ่นแบบยากินิกุแท้ ๆ นอกจากนี้ร้านยังมีเมนูเด็ดจากเมืองฮิโรชิม่าโดยเฉพาะ เช่น ฮิโรชิม่าราเมง และฮิโรชิม่าเรเมง ที่ใช้เส้นนำเข้าจากฮิโรชิม่าโดยตรง เป็นเมนูที่หาทานได้ยากในกรุงเทพฯ ร้านมีบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเองเหมือนร้านปิ้งย่างในญี่ปุ่นจริง ๆ แถมยังมีที่จอดรถให้บริการ ทำให้เดินทางสะดวกสบาย ใครที่อยากทานยากินิกุอร่อย ๆ และอยากลองรสชาติอาหารแบบฮิโรชิม่าแท้ ๆ พลาดไม่ได้เลย ร้านตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท 42  ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ 500-1,000 บาทขึ้นไป

YAKINIKU HIROSHIMA

Business hours

Every day 11:00 AM–11:00 PM.

address

Sukhumvit Road 42, Khlong Toei Subdistrict, Khlong Toei District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/yakiniku-hiroshima/

20. Tempura NAGAOKA Phrom Phong

Tempura NAGAOKA ร้านนี้คือปรมาจารย์เทมปุระ ที่ส่งตรงฝีมือจากเชฟชาวญี่ปุ่นจากเมืองฟุกุโอกะที่เชี่ยวชาญการทอดโดยเฉพาะ เทมปุระของที่นี่ทอดสดใหม่ทีละชิ้น และเสิร์ฟถึงมือทันทีที่ออกจากกระทะร้อน ๆ เทคนิคการทอดของเชฟนั้นสุดยอดมาก เพราะแป้งเทมปุระจะบางเบา กรอบฟู และที่สำคัญคือไม่อมน้ำมันเลย ทำให้สัมผัสรสชาติความสดและหวานของวัตถุดิบหลักได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปลา ผักตามฤดูกาล หรือแม้แต่เมนูแปลกใหม่อย่าง เมนไทโกะเทมปุระก็มีให้ลองด้วยนะ ที่ร้านมีให้เลือกทานทั้งแบบอะลาคาร์ทที่ราคาเริ่มต้นแค่ 60++ บาท และแบบโอมากาเสะที่ราคาจับต้องได้ ซึ่งเชฟจะแนะนำการทานคู่กับเกลือพิเศษ 3 ชนิด เช่น เกลือสาหร่ายทะเล หรือเกลือชาเขียว เพื่อเพิ่มมิติของรสชาติ ถือเป็นประสบการณ์การทานเทมปุระที่อร่อย สนุก และน่าประทับใจสุด ๆ ร้านตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 39 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ 500-1,500 บาทขึ้นไป

Tempura NAGAOKA Phrom Phong

Business hours

Every day 11:30–14:00 and 17:00–22:00.

address

111 Sukhumvit Soi 39, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/tempura-nagaoka-phromphong/

21. Japanese Kitchen Ant'z

ร้านอิซากายะที่รีโนเวททาวน์เฮาส์เก่าให้กลายเป็นร้านสไตล์มินิมอลอบอุ่น บรรยากาศดีมาก ๆ จนคนญี่ปุ่นที่อยู่ย่านนี้แห่กันมาเยอะสุด ๆ ร้านนำเสนอ Comfort Food สไตล์อิซากายะคุณภาพดีในราคาสมเหตุสมผล ทุกเมนูทำสดใหม่ และรสชาติตรงตามต้นตำรับสุด ๆ เมนูที่ไม่ควรพลาดคือ ข้าวอบหม้อดินปลาแซลมอนและไข่ปลาแซลมอน (Salmon Ikura Oyakodon) ที่หอมกรุ่น ข้าวหนึบหนับ หรือจะเป็นปีกไก่ยัดไส้เกี๊ยวซ่า และไก่ย่างราดซอสเกรวี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังมีเมนูไข่ม้วนพรีเมียมที่รสชาติดีมาก ร้านมีที่นั่งให้เลือกหลากหลาย ทั้งเคาน์เตอร์บาร์ที่สามารถนั่งดูเชฟทำอาหาร และมีห้องส่วนตัวให้สำหรับคนที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวในการสังสรรค์ด้วยนะ ที่สำคัญคือร้านเปิดยาวตั้งแต่ 5 โมงเย็น ไปจนถึง ตี 2 เลย สายแฮงค์เอาท์ห้ามพลาด ร้นตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 14 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 1,000 บาท

Japanese Kitchen Ant'z

Business hours

Every day 17:00–2:00

address

416/4 Soi Sukhumvit 55 (Thonglor Klongton, Nua, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/japanese-kitchen-antz/

22. Katsu Midori

Katsu Midori ร้านซูชิสายพานจากโตเกียว ที่ได้มาเปิดสาขาในไทยและฮอตฮิตจนคิวยาวเหยียด จุดเด่นของที่นี่คือ คุณภาพของวัตถุดิบที่สดใหม่ และซูชิคำโตชิ้นใหญ่เต็มคำ ในราคาจับต้องได้ โดยราคาเริ่มต้นเพียง 40 บาทต่อจานเท่านั้น เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดคือ โทโร่ ที่ละลายในปาก อูนิกุนคัง และโฮตาเตะชิ้นใหญ่ ๆ ปลาที่นี่คือสดและคุณภาพเกินราคาของซูชิสายพานทั่วไปมาก ๆ อีกความสนุกของร้านคือ เมนูนาทีทอง ที่พนักงานจะประกาศเมนูพิเศษที่เชฟนำวัตถุดิบหายากมาขายในราคาโปรโมชั่นแบบจำกัดจำนวน ซึ่งต้องยกมือสั่งเท่านั้น ทำให้บรรยากาศร้านคึกคักเพิ่มขึ้นไปอีก แถมยังมีเมนูของหวานน่ารัก ๆ อย่าง เนโกะพุดดิ้ง หรือพุดดิ้งน้องแมว ให้สั่งมาถ่ายรูปอีกด้วย ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ห้างเซนทรัลเวิลด์ ราคาโดยเฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาท

Katsu Midori

Business hours

Every day 10:00 AM–10:00 PM.

address

ชั้น 3 (3rd Fl 1-4/2, ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, 4 4 ถนน ราชดำริ แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

23. Katsushin

ต่อมาขอแนะนำร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านสีลม ร้าน Katsushin ที่มีชื่อเสียงมานาน แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่นที่ทำงานย่านนี้มาก ๆ เพราะรสชาติถอดแบบมาจากสาขาต้นฉบับที่ย่านอุเอโนะ เลย จุดเด่นขอคัตสึชินคือ เทคนิคการทอดที่ไร้ที่ติ ทงคัตสึที่นี่จะกรอบนอกนุ่มใน แป้งบางเบาและไม่อมน้ำมัน เนื้อหมูสันในหรือสันนอกที่ใช้ก็พรีเมียมมาก ๆ มีความชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งกระด้าง เมนูแนะนำที่ไม่ควรพลาดคือ Miso Katsu Set ที่ราดด้วยซอสมิโซะสูตรเข้มข้น หรือ Hire Garlic Cheese Set หมูสันในทอดสอดไส้กระเทียมชีสที่ชีสเยิ้มสะใจ ที่นี่เสิร์ฟมาเป็นเซ็ตแบบคุ้มค่ามาก ๆ เพราะสามารถเติมข้าวและกะหล่ำปลีฝอยได้ไม่อั้น ร้านตั้งอยู่ที่สีลมซอย 6 ราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 200-600 บาท

Katsushin

Business hours

Every day 11:00–14:00 and 17:00–22:00.

address

9/1 ถ.สีลม แขวง บางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

24. Sushi Juban Takumi

Sushi Juban Takumi ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคาไม่แรงจนเกินไป จุดเด่นของร้านคือ คอร์สโอมากาเสะในราคาเริ่มต้นที่สบายกระเป๋า แต่ยังคงคุณภาพวัตถุดิบระดับพรีเมียมไว้ เชฟชาวญี่ปุ่นจะคัดสรรปลาสดตามฤดูกาลมาปั้นให้เราทานแบบคำต่อคำ และความพิเศษอยู่ที่เทคนิคการปรุงที่มีความหลากหลาย ไม่ได้มีแค่ปลาดิบ แต่มีเมนูที่ผ่านการปรุงมาอย่างพิถีพิถัน เช่น ตับปลาอังโกะหรือปลาที่นำไปย่างฟางเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมเฉพาะตัว บรรยากาศร้านตกแต่งแบบญี่ปุ่นสุด ๆ มีทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ให้เราได้พูดคุยกับเชฟและชมศิลปะการปั้นซูชิอย่างใกล้ชิด และมีห้องส่วนตัวสำหรับกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวด้วยนะ ร้านตั้งอยู่ในซอยพร้อมพรรค ทองหล่อ ราคาคอร์สโอมากาเสะเริ่มต้นที่ 980 ++บาท สำหรับคอร์สกลางวัน และเริ่มต้นที่ 2,000++ บาท สำหรับคอร์สอาหารเย็น

Sushi Juban Takumi

Business hours

Every day 11:30 AM–12:00 AM

address

36, 1Fl, 1 Soi Promphak, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

25. Yuna Restaurant

Yuna Japanese Restaurant ร้านนี้ดังในหมู่คนญี่ปุ่นมาก ๆ ทางร้านใช้วัตถุดิบที่นำเข้าจากญี่ปุ่น 100% โดยเฉพาะปลาดิบและซาชิมิที่สดใหม่มาก ๆ จนลูกค้าหลายคนบอกว่าสดหวานไม่แพ้ร้านพรีเมียมแพง ๆ เลย ที่นี่มีเมนูหลากหลาย ทั้งซูชิ ซาชิมิ ยากิโทริ และชาบูชาบู นอกจากนี้ยังมีเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ทาโกะวาซาบิ ที่เสิร์ฟมาแบบเย็นเจี๊ยบ หรือโอฉะสึเกะ (Ochazuke) ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กินอาหารโฮมเมด จุดที่ทำให้ร้านนี้คุ้มค่าสุด ๆ คือ เซ็ตมื้อเที่ยงที่จัดเต็มแบบกินจนจุกในราคาที่น่ารักมาก และยังมีโอมากาเสะแบบเซ็ต ที่ราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อยบาทเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งร้านที่คุณภาพดีเกินราคามาก ๆ ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 11 ติด BTS นานา ราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ขึ้นไป

Yuna Restaurant

Business hours

Every day 11:00 AM–12:00 AM

address

155, 18-19 Sukhumvit Soi 11/1, Khlong Toei Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

26. Hokkaido Genshiyaki Sukhumvit 26

ร้านต่อไปที่จะแนะนำ ขอเอาใจคนรักอาหารทะเลเล็กน้อย เพราะร้านนี้เขานำความอร่อยและวัตถุดิบพรีเมียมจากเกาะฮอกไกโดมาเสิร์ฟให้ถึงสุขุมวิทเลยทีเดียว ซิกเนเจอร์ของร้านคือ เมนูปลาย่างเก็นชิยากิ (Genshiyaki) ซึ่งเป็นเทคนิคการย่างถ่านแบบโบราณของชาวประมงญี่ปุ่น โดยจะเสียบปลาด้วยไม้แล้วย่างอย่างช้า ๆ โดยไม่ให้โดนไฟโดยตรง ทำให้เนื้อปลาที่ได้มีความสุกช้า ๆ เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และยังคงรสหวานของปลาไว้ได้อย่างเต็มที่ เมนูปลาย่างที่ดัง ๆ คือ ปลาฮอกเกะย่าง และปลาซาบะที่สดใหม่มาก ๆ นอกจากปลาแล้ว ที่นี่ก็มีเมนูอื่น ๆ ที่ว้าวไม่แพ้กัน เช่น Seafood Tower เมนูข้าวหน้าปลาดิบรวมภูเขาไฟ ที่โปะปลาดิบ ไข่ปลาแซลมอน และอูนิแบบจุกๆ หรือเมนู Original Carbonara ที่คลุกเส้นพาสต้าในก้อนชีสยักษ์แบบสด ๆ ที่โต๊ะเลย บรรยากาศร้านก็อบอุ่น เป็นกันเอง และเชฟชาวญี่ปุ่นก็มาดูแลเองเลยด้วย ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ 500-1,000 บาท

Hokkaido Genshiyaki Sukhumvit 26

Business hours

Mon.-Fri. 11:00 AM–3:00 PM and 5:00 PM–11:00 PM.

Sat.-Sun. 11:00 AM–4:00 PM and 5:00 PM–11:00 PM.

address

83 Sukhumvit 26, Khlongton Subdistrict, Khlongton, Bangkok 10110

27. Hanaya

ถ้าพูดถึงร้านอาหารญี่ปุ่นในตำนาน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในไทย ต้องยกให้ Hanaya เลย จุดเด่นของร้านคือ รสมือแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาหลายรุ่น อาหารที่นี่เน้นความพิถีพิถันและวัตถุดิบคุณภาพดีที่นำเข้าจากญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นซูชิ ซาชิมิที่สดใหม่ หรือเมนูหาทานยากต่าง ๆ เมนูที่เป็นที่รักและทุกคนต้องสั่งคือ Matcha Purin พุดดิ้งชาเขียว ที่มีรสสัมผัสต่างจากที่อื่น ไม่หนึบหนืด แต่ละลายในปาก หอมกลิ่นชาเขียวชัดเจน บรรยากาศร้านยังคงความคลาสสิกและอบอุ่น ให้ฟีลเหมือนอยู่บ้านญี่ปุ่นที่เรียบง่าย เป็นจุดนัดพบที่คนญี่ปุ่นในไทยเองก็ยังคงแวะเวียนมาทานเป็นประจำ ร้านตั้งอยู่ในซอยเจริญกรุง 39 ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ 500-1,000 บาท

Hanaya

Business hours

จ.-อา. 11:15–14:00 น. และ 17:30–21:30 น., ปิดทุกวันจันทร์

address

683 ซอย เจริญกรุง 39 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

28. MATCHA TIMES

อีกสามร้านที่เหลือ ขอเอาใจสายหวาน มากันที่ร้านแรกที่อยากแนะนำคือ MATCHA TIMES ร้านมัทฉะในซอยสุขุมวิท 33/1 ที่สายกินและสายชาเขียวไม่ควรพลาด จุดเด่นของร้านคือการใช้มัทฉะแท้ ๆ ที่นำเข้าจาก 3 แหล่งปลูกชาชื่อดังในญี่ปุ่น คือ ชิซุโอกะ อุจิ และนิชิโอะ ทำให้เมนูเครื่องดื่มของที่นี่รสชาติเข้มข้นถึงใจ และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมนูมัทฉะที่นี่มีความหลากหลายมาก ตั้งแต่ Pure Matcha ที่ราคาเริ่มต้นเพียง 80 บาท ไปจนถึงเมนูฟิวชั่นสุดสร้างสรรค์อย่าง Matcha Coconut หรือ Matcha Yuzu Lemonade Soda ที่ดื่มแล้วสดชื่นสุด ๆ นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ที่ร้านยังมีของหวานญี่ปุ่นที่ทำจากมัทฉะและขนมอื่ๆ ให้ลองด้วย เช่น Ueno Panda Yaki ขนมรูปแพนด้าไส้ชาเขียวและคัสตาร์ด หรือ Matcha Ice-cream ที่เข้มข้นถึงรสชาเขียวแท้ ๆ เป็นร้านที่เหมาะกับการมานั่งชิลล์ ๆ หรือพักเบรกจากความวุ่นวาย ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 80-200 บาท

MATCHA TIMES

Business hours

จ.-ศ. 6:30–20:30 น.

ส.-อา. 10:30–19:00 น.

address

595, Ellsie Boutique Mall, 22 Soi Sukhumvit 33/1 KlongTon-Nuea, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/matcha-times/

29. Cafe Temari

ถ้ากำลังมองหาร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นแบบโฮมมี่ ที่มีเมนูเบา ๆ น่ารัก ๆ ต้องมาเช็กอินที่ Cafe Temari เลย ร้านนี้ซ่อนตัวอยู่ในซอยทองหล่อ 14  มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือเมนูข้าวปั้นเทมารีซูชิ (Temari Sushi) ซึ่งเป็นซูชิรูปทรงกลมเล็ก ๆ จัดแต่งอย่างสวยงามและน่ารักมาก ๆ ทำให้ทานง่ายและเหมาะกับการถ่ายรูปสุด ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับอาหารเรียกน้ำย่อยและของหวานโฮมเมดในเซ็ตเดียว ยังมีเมนูของหวานที่น่าสนใจ เช่น Afternoon Tea Set สไตล์ญี่ปุ่นที่มีขนมหวานโฮมเมดอร่อย ๆ รวมถึงเมนูฟิวชั่นอื่น ๆ ที่น่าลอง และอีกไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ของร้านก็คือ Snow Gelato น้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น หวาน ๆ เย็น ๆ ที่มีให้เลือกหลานรสชาติมาก ๆ นอกจากนั้นยังมีเมนูเครื่องดื่มให้เลือกสั่งอีกหลายเมนู ร้านตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 14  ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาทขึ้นไป

Cafe Temari

Business hours

Every day 11:00 AM–9:00 PM.

address

Soi Thonglor 14, Khlong Tan Nuea Subdistrict, Watthana District, Bangkok 10110

Store details page

https://aroimaru.com/restaurants/cafe-temari/

30. Heiwa Kissa

ร้านสุดท้ายที่อยากแนะนำให้กับสายหวานที่รักบรรยากาศญี่ปุ่นแบบคลาสสิก Heiwa Kissa ร้านคาเฟ่สไตล์คิสสะเต็น (Kissaten) ซึ่งเป็นร้านกาแฟญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ให้ความรู้สึกย้อนยุคและอบอุ่นมาก ๆ เมนูที่มาแล้วต้องสั่งคือ คัสตาร์ดพุดดิ้ง เนื้อเนียนนุ่ม หอมละมุนมาก ๆ ราดด้วยคาราเมลรสเข้มที่ให้ความขมตัดรสหวานได้ลงตัวสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูเรโทรที่ถ่ายรูปสวยและชื่นใจอย่าง ครีมโซดาสีสันสดใสพร้อมไอศกรีมวานิลลา แถมรสชาติยังอร่อยไม่แพ้หน้าตาเลยด้วย บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยไม้สีเข้ม โคมไฟสลัว ๆ และเฟอร์นิเจอร์แบบวินเทจ ทำให้รู้สึกเหมือนเวลาหยุดหมุนไปชั่วขณะ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนจากความวุ่นวายของโลกภายนอกมาก ๆ ร้านไม่ใหญ่มาก แต่ถ่ายรูปสวยทุกมุม ร้านตั้งอยู่บนถนนบริพัตร เดินจาก MRT สามยอด ทางออก 1 ไม่ไกล ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 200-400 บาท

Heiwa Kissa

Business hours

อ.-ศ.10:00–18:00 น.

ส.-อา. 10:00–19:00 น.

Closed every Monday

address

245 ถ. บริพัตร แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100