40 ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสุขุมวิท ที่ต้องไปลองสักครั้ง
การจะเลือกร้านเด็ด ๆ ที่ถูกใจในย่านสุขุมวิทอาจเป็นเรื่องยาก เพราะร้านอาหารญี่ปุ่นในสุขุมวิทมีเยอะมากจริง ๆ ว่าไหมคะ ดังนั้น บทความนี้เราจึงได้รวบรวม 40 ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสุขุมวิท ที่ได้รับความนิยมและคุณภาพเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นร้านระดับตำนานที่เปิดมานาน หรือร้านใหม่ ๆ ที่ไม่ควรพลาดที่จะไปลอง เราคัดมาให้แล้วแบบเน้น ๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาปักหมุดลิสต์ร้านอร่อยที่ไม่ควรพลาดไปพร้อมกันเลย
สารบัญ
-
01
-
02
-
03
-
04
-
05
-
06
-
07
-
08
-
09
-
10
-
11
-
12
-
13
-
14
-
15
-
16
-
17
-
18
-
19
-
20
-
21
-
22
-
23
-
24
-
25
-
26
-
27
-
28
-
29
-
30
-
31
-
32
-
33
-
34
-
35
-
36
-
37
-
38
-
39
-
40
1. Robata Kitaro Sushi KAGUYA
ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านดังจากโอซาก้าในย่านสุขุมวิท ที่เสิร์ฟทั้งซูชิสดใหม่และเมนูย่างถ่านสุดพิเศษ เป็นที่นิยมมากในหมู่คนไทยและคนญี่ปุ่น ด้วยบรรยากาศสไตล์โมเดิร์น ที่มีเคาน์เตอร์บาร์ล้อมเตาย่างถ่านที่ตั้งอยู่กลางร้าน ให้ลูกค้าชมเชฟปรุงอาหารได้แบบสด ๆ ตรงหน้า และที่สำคัญคือเวลาให้บริการที่เปิดจนถึงดึก เหมาะกับการมาสังสรรค์มาก คุณภาพซูชิของที่นี่ ถือว่าคุ้มค่าเกินราคา โดยเฉพาะพวกปลาพรีเมียมอย่างโอโทโร่ หรืออูนิ เมนูโรบาตายากิก็ย่างออกมาได้หอมชวนหิว และดึงรสชาติของวัตถุดิบออกมาได้เป็นอย่างดี ที่นี่ยังมีวัตถุดิบสุดพิเศษจากท่าเรืออุเคโดะ ในจังหวัดฟุกุชิมะมาเซอร์ไพรส์ลูกค้าอยู่บ่อย ๆ ด้วยนะ ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 สามารถลง BTS อโศก หรือ MRT สุขุมวิท แล้วเดินต่อเข้ามาในซอยได้ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป
Robata Kitaro Sushi KAGUYA
- เวลาทำการ
ทุกวัน 17:00–1:00 น.
- ที่อยู่
94 ชั้น 1 ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
2. YAKINIKU HIROSHIMA
ร้านยากินิกุในย่านสุขุมวิท ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท 42 ที่นี่ตั้งใจคัดสรรเนื้อคุณภาพดีมาให้ย่างบนเตาถ่านแบบไร้ควัน แถมยังมีเมนูพิเศษจากเมืองฮิโรชิม่ามาให้ได้ลองชิมกันถึงที่ ที่นี่เค้าใส่ใจเรื่องเนื้อมาก จุดขายคือเนื้อวากิวและเนื้อส่วนต่าง ๆ ที่มีลายสวยงามน่ากินสุด ๆ ย่างบนเตาถ่านที่ทันสมัยทำให้ไม่มีควันรบกวน ช่วยดึงรสชาติความหอมและอร่อยของเนื้อออกมาได้อย่างเต็มที่ นอกจากเมนูเนื้อย่างที่หลากหลายแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูหายากอย่าง ฮิโรชิม่าราเมง (Hiroshima Ramen) และฮิโรชิม่าเรเมง (Hiroshima Reimen) ที่ใช้เส้นนำเข้าจากฮิโรชิม่าแท้ ๆ ให้ได้ลองด้วยนะ ราคาก็ถือว่าคุ้มค่ามาก เฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคน
YAKINIKU HIROSHIMA
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–23:00 น.
- ที่อยู่
ถนนสุขุมวิท 42 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
3. Ma MAISON
ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ตะวันตก หรือโยโชกุ (Yoshoku) ที่รสชาติกลมกล่อมลงตัวในย่านสุขุมวิท ร้านนี้ตั้งอยู่ชั้น 3 ของ Donki Mall Thonglor มีที่จอดรถสะดวกสบาย และลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นคนญี่ปุ่น เมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกคนต้องสั่งคือ ข้าวห่อไข่ (Omurice) ที่ไข่นุ่มฟู ราดด้วยซอสเดมิกลาสสูตรพิเศษ ที่ทางร้านเคี่ยวอย่างพิถีพิถันจนได้รสเข้มข้น หอม กลมกล่อม นอกจากนี้ยังมีแกงกะหรี่สไตล์โอซาก้า แฮมเบิร์กสเต๊กเนื้อแน่น ๆ และเมนูทอดต่าง ๆ อีกด้วย ราคาก็ไม่แพงเกินไป โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาทต่อคน
Ma MAISON
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–21:00 น.
- ที่อยู่
Room 304 3rd Fl, 107 ซ. สุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
4. Shakariki432 Nihonmachi
สำหรับสายแฮงค์เอาท์ที่มองหาร้านอาหารญี่ปุ่นสุดคึกคักย่านสุขุมวิท ต้องปักหมุดร้าน Shakariki432 สาขา Nihonmachi ไว้เลย ที่นี่คือสวรรค์ของคนชอบร้านอิซากายะ แถมร้านยังเปิดยาว ๆ ยันเช้ามืด เมนูที่นี่ก็มีเยอะสะใจมาก มีให้เลือกกว่า 300 รายการ ตั้งแต่ของทอดเสียบไม้เด็ด ๆ อย่าง คุชิคัตสึ ซาชิมิปลาสด ๆ ยากิโทริ และเมนูสไตล์กับแกล้มอีกเพียบ ที่สำคัญคือร้านมีทาโกยากิที่เราสามารถลงมือทำเองที่โต๊ะได้ด้วยนะ เป็นกิจกรรมสนุก ๆ ที่ไม่เหมือนใครเลย ร้านตั้งอยู่ในโครงการ Nihonmachi สุขุมวิท 26 ถ้ามาด้วยรถไฟฟ้าจะลง BTS พร้อมพงษ์ แล้วต่อรถเข้ามาก็สะดวก ราคาต่อหัวเริ่มต้นที่ประมาณ 500 บาท
Shakariki432 Nihonmachi
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–5:00 น.
- ที่อยู่
Sukhumvit Soi 26, ถ. สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
5. Sanriku Sushi Kyodoizakaya
มาเริ่มกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านแรกในย่านสุขุมวิท ที่ให้ฟีลเหมือนนั่งกินอยู่ที่ญี่ปุ่นจริง ๆ ร้านนี้เป็นร้านแรกในกรุงเทพฯ ที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นจากภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น บอกเลยว่าไม่เหมือนใคร ที่นี่เค้ามีเมนูเยอะมาก ๆ มากกว่า 300 รายการเลย ทั้งซูชิสด ๆ ที่ใช้ปลาตามฤดูกาลส่งตรงจากญี่ปุ่น และมีเมนูอิซากายะให้เลือกเพียบ หรือใครอยากลองแบบที่พรีเมียมขึ้น ก็มีโอมากาเสะราคาจับต้องได้ให้ฟินกันด้วยนะ เมนูที่น่าลองก็อย่างเช่น เต้าหู้เย็นราดผักดองสไตล์ยามากาตะ (Yamagata Dashi) ที่หาทานยากสุด ๆ ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 19 เดินทางสะดวกมาก จะมาด้วย BTS อโศก หรือ MRT สุขุมวิท ก็สบายเลย ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทขึ้นไป เป็นอีกหนึ่งร้านที่คออาหารญี่ปุ่นไม่ควรพลาด
Sanriku Sushi Kyodoizakaya
- เวลาทำการ
จ.-ส. 17:00–4:00 น.
อา. 17:00–2:00 น.
- ที่อยู่
ซอย สุขุมวิท 19 แยก 2 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
https://aroimaru.com/restaurants/sanriku-sushi-kyodoizakaya/
6. Japanese Kitchen Ant'z
ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะแบบโฮมเมด ร้านอาหารญี่ปุ่นรสชาติญี่ปุ่นแท้ ๆ บรรยากาศอบอุ่น เป็นกันเอง ในย่านสุขุมวิท ถึงจะเป็นอิซากายะ แต่คุณภาพวัตถุดิบเขาดีมาก มีเมนูที่หาทานยากและเป็นเอกลักษณ์เพียบ ทั้งซูชิ ซาชิมิคุณภาพ รวมถึงเมนูสร้างสรรค์อย่าง Rare Salmon Katsu เมนูแซลมอนชุบแป้งทอดกรอบ หรือ Roasted Chicken with Gravy Sauce ไก่ย่างฉ่ำ ๆ ที่เสิร์ฟพร้อมซอสเกรวีรสเด็ด ที่สำคัญคือร้านมีเมนูพิเศษประจำวันให้ได้ลิ้มลองความอร่อยใหม่ ๆ อีกด้วย ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็น ยาวไปจนถึงตี 5 เลย เหมาะสำหรับมานั่งชิลล์หลังเลิกงาน หรือนัดเพื่อนมาสังสรรค์กันแบบสบาย ๆ นอกจากนี้ยังมีโซนที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ และมีห้องส่วนตัวด้วยนะ ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 55 ราคาต่อหัจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท
Japanese Kitchen Ant'z
- เวลาทำการ
ทุกวัน 17:00–2:00 น.
- ที่อยู่
416/4 Soi Sukhumvit 55(Thonglor Klongton, Nua, เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
7. Torihada
ร้านอาหารญี่ปุ่นแนวอิซากายะ ที่เน้นเมนูไก่ย่างเสียบไม้ หรือยากิโทริ (Yakitori) คุณภาพเยี่ยม ร้านนี้เป็นร้านดังมาจากญี่ปุ่นเลยนะ เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักเมนูไก่ ทางร้านคัดสรรไก่คุณภาพดีทุกส่วนมาเสียบไม้และย่างบนเตาถ่านอย่างพิถีพิถัน ทำให้เนื้อไก่นุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นถ่านอ่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสะโพก หัวใจ ตับ หรือเมนูเฉพาะอย่าง สีคุเนะ (Tsukune) ก็อร่อยเด็ดทุกไม้ นอกจากนี้ยังมีเมนูไก่อื่น ๆ อีกเพียบ เช่น หม้อไฟไก่ น้ำซุปเข้มข้นที่เคี่ยวนานกว่า 8 ชั่วโมง หรือแม้แต่เมนูอาหารกลางวันก็เด็ดไม่แพ้กัน และนอกจากเมนูแบบอะลาคาร์ทแล้ว ที่ร้านยังมีเซ็ตอาหารกลางวันราคาสบายกระเป๋าให้เลือกด้วย ร้านตั้งอยู่ที่อาคาร UBC II ซอยสุขุมวิท 33 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 50 -1,000 บาท
Torihada
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:30–14:00 น. และ 17:30–22:30 น.
- ที่อยู่
UBC2 591 ตึก ถ. สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
8. Genpukan Thonglor
สำหรับชาวสุขุมวิทที่เป็นสายเนื้อและรักการปิ้งย่างสไตล์ ต้องมาที่ร้าน Genpukan Thonglor เลย ร้านนี้เป็นร้านยากินิกุต้นตำรับจากฟุกุโอกะที่เก่าแก่กว่า 75 ปี และขนสูตรลับความอร่อยมาถึงกรุงเทพฯ พระเอกของที่นี่คือเนื้อวัวคุณภาพพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวากิวลายสวย ๆ หรือเนื้อซี่โครงที่เป็นซิกเนเจอร์ แต่ทีเด็ดที่ทำให้ร้านนี้ไม่เหมือนใครเลยคือ ซอสจิ้มเนื้อย่างสูตรลับจากเมืองฮากาตะ ซอสสีแดงเข้ม รสชาติเค็มหวาน กลมกล่อม มีเผ็ดติดปลายลิ้นนิด ๆ เวลาเอาเนื้อย่างร้อน ๆ จุ่มลงไปแล้วทานคู่กัน บอกเลยว่าแสงออกปาก นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดอย่าง ลิ้นวัวหมักต้นหอม และเนื้อย่างจุ่มไข่ดิบที่ต้องลอง เมนูอื่น ๆ ที่เป็นที่นิยม เช่น เครื่องในย่าง ที่ทำความสะอาดมาอย่างดี ไม่มีกลิ่นสาบ บรรยากาศร้านก็สบาย ๆ และมีห้องส่วนตัวไว้รองรับด้วย ร้านตั้งอยู่บนถนนทองหล่อ ใกล้กับโรงแรม Hotel Nikko ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000-2,500 บาทต่อคน
Genpukan Thonglor
- เวลาทำการ
ทุกวัน 12:00–0:00 น.
- ที่อยู่
41, 43 ถ. ทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
9. Sushi Kappou Ishimoto
ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมียมในย่านสุขุมวิท ร้านนี้ตั้งอยู่ในโรงแรม นิกโก้ กรุวเทพฯ (Hotel Nikko Thonglor) ร้านนี้มาในสไตล์คัปโปะ (Kappou) คือการทำอาหารแบบไฟน์ไดนิ่งที่ผสมผสานทั้งเมนูร้อนและเย็นเข้าไว้ในคอร์สโอมากาเสะอย่างลงตัว ความพิเศษของที่นี่คือคอร์สโอมากาเสะที่รวมทั้งซูชิชั้นเลิศและอาหารที่ต้องใช้เทคนิคการปรุงแบบพิเศษเอาไว้ด้วยกัน วัตถุดิบทุกอย่างสดใหม่มาก ๆ โดยเฉพาะพวกปลาทะเลและไข่หอยเม่นคือพรีเมียมสุด ๆ เชฟจะคัดสรรวัตถุดิบตามฤดูกาลมาปรุงให้เราได้ลิ้มลองทีละจาน ทำให้เราได้อร่อยกับรสชาติที่สดใหม่ที่สุดตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ ๆ ราคาต่อหัวค่อนข้างสูง โดยคอร์สโอมากาเสะจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,500 บาทขึ้นไป แต่ว่าความพรีเมียมคือเกินราคาไปมากเลยนะ
Sushi Kappou Ishimoto
- เวลาทำการ
ทุกวัน 17:00–22:00 น.
- ที่อยู่
Room 301, Hotel Nikko Bangkok 3rd Fl, 27 ถ. ทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
10. Sakura Saku
ร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 31 ที่ให้ฟีลเหมือนได้ไปนั่งกินข้าวที่บ้านคนญี่ปุ่นสุด ๆ ร้านนี้เป็นร้านสไตล์อิซากายะ แต่มีความพิเศษตรงที่เน้นบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาก ๆ เมนูซิกเนเจอร์ที่ใครมาก็ต้องสั่งคือ สุกี้ยากี้เนื้อวากิว เนื้อคือดีมาก ๆ ฉ่ำนุ่มละลายในปาก ทานคู่กับน้ำซุปสุกี้ยากี้รสชาติเข้มข้นสูตรต้นตำรับบอกเลยว่าฟินสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อยอื่น ๆ ให้เลือกอีกเพียบ ทั้งซาชิมิสด ๆ และเมนูกับแกล้มสไตล์อิซากายะที่ปรุงโดยเชฟชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทขึ้นไป
Sakura Saku
- เวลาทำการ
จ.-ส. 17:00–0:00 น., ปิดทุกวันอาทิตย์
- ที่อยู่
22 สุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
11. Kappo Hisa
ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์คัปโปะ (Kappo) ที่รวมเอาเทคนิคการทำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมมาใช้ในการปรุงอาหาร ความดีงามของที่นี่คือเชฟฮิสะ ที่เป็นคนญี่ปุ่น อารมณ์ดี และพูดคุยกับลูกค้าอย่างเป็นกันเองมาก ๆ ทำให้บรรยากาศการทานอาหารที่เคาน์เตอร์บาร์ยิ่งสนุกและอบอุ่น เมนูจะเน้นวัตถุดิบตามฤดูกาลที่เชฟคัดสรรมาเองกับมือ ทำให้เราได้ลองของอร่อยที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่มา นอกจากความสดใหม่แล้ว ทุกจานยังผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถัน สวยงามราวกับงานศิลปะเลยล่ะ ร้านนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างเงียบสงบในซอยสุขุมวิท 20 และเน้นที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ยาว ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้ชมการทำอาหารของเชฟแบบใกล้ชิด ซึ่งเป็นเสน่ห์ของอาหารสไตล์คัปโปะเลย ราคาคอร์สจะเริ่มต้นที่ประมาณ 4,500++ บาท ขึ้นไป
Kappo Hisa
- เวลาทำการ
ทุกวัน 12:00–14:00 น. และ 17:00–21:00 น.
- ที่อยู่
66/4 mile malle sukhmvit20 g floor room103, ซอย ไผ่สิงห์โต sukhmvit20, เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
12. Kuma no Yakitori Bangkok
Kuma no Yakitori ร้านยากิโทริร้านดังจากโอซาก้า ที่เป็นมากกว่ายากิโทริทั่วไป ที่นี่เขาเสิร์ฟเมนูยากิโทริแบบโอมากาเสะ ที่เชฟจะรังสรรค์เมนูยากิโทริจากไก่คุณภาพเยี่ยมกว่า 8 ส่วน พร้อมเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่น ๆ ตามฤดูกาล ความพิเศษคือเทคนิคการย่างถ่านขั้นเทพ ทำให้เนื้อไก่ทุกคำนุ่มฉ่ำ มีกลิ่นหอมรมควันเป็นเอกลักษณ์ แถมยังมีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Ultimate TKG เมนูข้าวหน้าไข่ดิบสุดพรีเมียมที่ท็อปด้วยไข่หอยเม่นและไข่ปลาแซลมอน เมนูของร้านจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาล เพื่อให้ลูกค้าที่มาได้ลองเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โครงการ Rain Hill ซอยสุขุมวิท 47 ราคาคอร์สค่อนข้างสูง โดยจะเริ่มต้นที่ประมาณ 3,500 บาท++ ขึ้นไป แต่รับรองความอร่อยและความพรีเมียมที่หาไม่ได้จากร้านไหน
Kuma no Yakitori Bangkok
- เวลาทำการ
จ.-ส. 17:00–22:30 น., ปิดทุกวันอาทิตย์
- ที่อยู่
Rain Hill, 1F, 777 ซอย สุขุมวิท 47 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
13. Rockmen 69men
Rockmen 69men ร้านราเมงรสชาติจัดจ้านแบบออริจินัลในย่านสุขุมวิท ที่คนรักเมนูราเมงจะพลาดไม่ได้ เพราะที่นี่จำกัดการขายราเมงเพียงแค่ 69 ชามต่อวันเท่านั้น เมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกคนต้องมาลองคือ สึเคเมง ที่เส้นราเมงเหนียวนุ่ม หนึบหนับกำลังดี เสิร์ฟแบบเย็นหรืออุ่นก็ได้ จุ่มในน้ำซุปเข้มข้นที่มีรสชาติเค็ม หวาน มัน และหอมกลิ่นปลาแห้ง บอกเลยว่าฟินมาก ส่วนใครชอบรสจัดจ้านก็สามารถใส่เครื่องปรุงที่ร้านเตรียมไว้ให้เพิ่มได้ นอกจากสึเคเมงแล้วยังมีโชยุราเมง ชิโอะราเมง หรือน้ำซุปไพตันรสเข้มข้ม และเมนูข้าวหน้าต่าง ๆ อย่าง ชาชูด้ง ให้เลือกด้วย ใครที่ชอบราเมงแบบน้ำซุปเข้มข้น หอม กลมกล่อม และเส้นเหนียวหนึบถูกใจแน่นอน ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาทต่อคน
Rockmen 69men
- เวลาทำการ
จ., พ.-ศ. 12:00–15:00 น. และ 18:00–0:00 น.
อ. 12:00–15:00 น. และ 18:00–21:00 น.
ส.-อา. 12:00–0:00 น.
- หน้ารายละเอียดร้าน
14. Tempura NAGAOKA Phromphong
Tempura NAGAOKA Phromphong ร้านอาหารญี่ปุนที่คนรักเมนูของทอด โดยเฉพาะเมนูเทมปุระจะต้องตกหลุมรัก ร้านนี้คือสุดยอดเทมปุระสูตรต้นตำรับจากเมืองฟุกุโอกะ โดยเชฟจะคอยเสิร์ฟเทมปุระทอกเสร็จใหม่ ๆ แบบคำต่อคำ แล้วเทมปุระที่ทอดมาบอกเลยว่าแป้งบาง กรอบฟูสุด ๆ วัตถุดิบที่ใช้ก็เป็นวัตถุดิบพรีเมียมตามฤดูกาลที่ตัดสรรมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกุ้งเนื้อหวาน เห็ด หรือแม้แต่ของแปลกใหม่อย่าง เทมปุระดอกกะหล่ำ หรือไอศกรีมเทมปุระสตรอว์เบอร์รีไดฟุกุ ยังเพิ่มความอิ่มท้องด้วยเมนูข้าวอบหม้อดิน ที่ให้ปริมาณมาแบบเต็มหม้อได้อีกด้วย ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท ขึ้นไป
Tempura NAGAOKA Phromphong
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:30–14:00 น. และ 17:00–22:00 น.
- ที่อยู่
111 ซ. สุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
https://aroimaru.com/restaurants/tempura-nagaoka-phromphong/
15. Hinata Izakaya Asoke
ชาวออฟฟิศต้องไม่พลาดร้าน Hinata Izakaya Asoke ร้านอิซากายะในย่านสุขุมวิท ให้ฟีลเหมือนหลุดเข้าไปในร้านกินดื่มเล็ก ๆ ที่บรรยากาศอบอุ่น มีลูกค้าประจำทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นมาแฮงค์เอาท์กันเพียบ ที่นี่เค้ามีเมนูอิซากายะเยอะมาก ทีเด็ดของที่นี่ก็คือเมนูเสียบไม้ย่าง ทั้งคุชิยากิ (Kushiyaki) และคุชิอาเกะ (Kushiage) และเมนูจานเดียวที่รสชาติดีและราคาสบายกระเป๋าอย่าง อุด้ง แฮมเบิร์ก และเมนูข้าวหน้าต่าง ๆ เช่น ข้าวหน้าไก่ย่างชาร์โคล ข้าวหน้าเนื้อไข่ออนเซ็น ที่นั่งมีทั้งแบบเคาน์เตอร์บาร์ และโต๊ะสำหรับคนมาเป็นกลุ่ม แถมยังมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจอยู่บ่อย ๆ ด้วยนะ ใครกำลังหาที่แฮงค์เอาท์หลังเลิกงานอยู่ แนะนำร้านนี้เลย ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 21 ลง BTS อโศก หรือ MRT สุขุมวิท แล้วเดินต่อมาไม่กี่นาที ราคาก็น่ารักมาก ๆ อยู่ที่ประมาณ 200 บาทต่อคนขึ้นไป
Hinata Izakaya Asoke
- เวลาทำการ
จ.-ศ. 11:30–14:30 น. และ 17:30–23:30 น.
ส.-อา. 12:00–22:00 น.
- ที่อยู่
44-26 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
16. Obanzai Kitaro
ร้าน Obanzai Kitaro ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 41 จุดเด่นของที่นี่คือเมนูโอบันไซ (Obanzai) ซึ่งเป็นอาหารโฮมเมดสไตล์เกียวโต ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองสุด ๆ โดยเมนูจะเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบที่มีในแต่ละวัน ทำให้ได้ลองเมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ เมนูส่วนใหญ่จะเน้นผักและเนื้อสัตว์ตามฤดูกาลที่ปรุงรสชาติไม่จัดจ้านมากนัก แต่กลมกล่อมตามแบบฉบับอาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ เหมือนได้กินอาหารสุขภาพที่บ้าน นอกจากโอบันไซแล้วยังมีข้าวหน้าต่าง ๆ และอาหารเซ็ตสุดคุ้มให้เลือกด้วยนะ และที่เป็นที่พูดถึงมาก ๆ คือ โอเด้ง เมนูเสียบไม้ที่มาพร้อมน้ำซุปร้อน ๆ ให้ได้ซด เมนูนี้คือพลาดไม่ได้เลยนะ ราคาอาหารโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 250-500 บาทต่อคนขึ้นไป
Obanzai Kitaro
- เวลาทำการ
ทุกวัน 17:00–0:00 น.
- ที่อยู่
2/13 ซ สุขุมวิท 41 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
17. SUPER SHAKARIKI 432 EMSPHERE
ถ้ามองหาร้านอิซากายะนั่งชิลล์หลังเลิกงาน ที่ทั่งอร่อย เดินทางง่าย และราคาสมเหตุสมผล ขอแนะนำ SUPER SHAKARIKI 432 สาขา EMSPHERE ร้านนี้เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์สุดสนุกที่เปิดตั้งแต่ 11 โมงเช้า ยิงยาวไปจนถึงตี 5 ยกเมนูอาหารสไตล์โอซาก้ามาเสิร์ฟแบบครบเครื่องกว่า 200 รายการ เมนูที่พลาดไม่ได้ที่จะพาไปสัมผัสรสชาติแบบดั้งเดิมของคันไซ คือ คุชิคัตสึ ทาโกะยากิ และโอโคโนมิยากิ ยังมีเมนูอิซากายะสุดคลาสสิกอย่าง แซลมอนซาชิมิ และสเต็กเนื้อวากิวก็มีให้เลือก ที่สำคัญคือที่นี่มีบุฟเฟต์เครื่องดื่มราคาคุ้มค่าให้ดื่มกันยาว ๆ ด้วย หรือใครที่อยากปาร์ตี้ โชว์พลังเสียง ก็มีห้องคาราโอเกะส่วนตัวให้บริการถึง 4 ห้องเลย ร้านตั้งอยู่บนชั้น 5 ของศูนย์การค้า EMSPHERE ราคาโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคน
SUPER SHAKARIKI 432 EMSPHERE
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–5:00 น.
- ที่อยู่
ชั้นที่5 ห้องเลขที่5D 03, อาคารศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์, 05 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
- หน้ารายละเอียดร้าน
18. Sushi Juban
ร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านสุขุมวิท ที่จะได้ทานโอมากาเสะแบบต้นตำรับโดยเชฟชาวญี่ปุ่นแท้ ๆ แบบไม่ต้องจ่ายจนแพงเกินไปร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องความสดใหม่ของปลาที่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่น และมีคอร์สโอมากาเสะให้เลือกหลายระดับราคา เหมาะมากสำหรับคนอยากลองโอมากาเสะครั้งแรก หรือจะเลือกคอร์สพรีเมียมที่ใช้ปลาตามฤดูกาลก็มีให้ฟิน นอกจากซูชิแล้วยังมีเมนูอื่น ๆ ที่อร่อยไม่แพ้กัน เช่น Negi Toro ทูน่าผสมต้นหอมที่รสชาติเข้มข้น ที่นั่งทั้งแบบเคาน์เตอร์บาร์ ให้เราได้ชมลีลาการปั้นซูชิของเชฟแบบสด ๆ และยังมีห้องส่วนตัวให้บริการอีกด้วยนะ ที่สำคัญคือร้านเปิดจนถึงดึกเลยด้วย ร้านมีทั้งสาขาทองหล่อ เอกมัย และอโศก ส่วนราคาคอร์สโอมากาเสะเริ่มต้นที่ประมาณ 980-1,500++ บาท
Sushi Juban
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:30–0:00 น.
- ที่อยู่
36, 1Fl, 1 ซอย พร้อมพรรค แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
19. Yurijin Izakaya & Japanese Dining Ekkamai
ร้านอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดีแบบคุ้มค่าคุ้มราคาในย่านสุขุมวิท ร้านนี้เป็นสไตล์อิซากายะก็จริง แต่จุดเด่นที่ทำให้ใคร ๆ ก็หลงรักคือ เซ็ตอาหารกลางวันที่ให้ฟีลเหมือนนั่งกินข้าวในโรงอาหารญี่ปุ่น แถมมีบุฟเฟต์เครื่องเคียงให้ทานไม่อั้น ราคาก็เริ่มต้นแค่หลักร้อยต้น ๆ เท่านั้น เมนูก็มีให้เลือกเยอะมาก คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ทั้งเมนูซาชิมิ แซลมอนคัตสึด้ง หรือแม้แต่เมนูอิซากายะอื่น ๆ ในมื้อเย็นก็ยังคงอร่อยถูกปาก นอกจากนี้ร้านยังมีบรรยากาศสบาย ๆ น่านั่งอีกด้วย ร้านตั้งอยู่ในโครงการ Earth Ekamai บนถนนสุขุมวิท 63 เซ็ตอาหารกลางวันเริ่มต้นแค่ 250-500 บาทต่อคน ส่วนมื้อเย็นแบบจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทขึ้นไป
Yurijin Izakaya & Japanese Dining Ekkamai
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–23:00 น.
- ที่อยู่
โครงการ Earth Ekamai, ซ. สุขุมวิท 63 Klongton, เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
20. Washoku Aji
ร้านนี้เป็นร้านที่คนญี่ปุ่นในย่านนี้ชอบมาทาน เพราะรสชาติถูกปาก และมีเมนูให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่ซูชิ ราเมง ไปจนถึงข้าวหน้าต่าง ๆ รวมแล้วมีเมนูให้เลือกมากกว่า 100 อย่าง จุดเด่นหลัก ๆ คือความหลากหลายและคุณภาพของวัตถุดิบที่สดใหม่ในราคาที่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะเมนูซูชิที่ราคาเริ่มต้นแค่หลักสิบ ส่วนเมนูที่คนพูดถึงเยอะ ๆ ก็อย่างเช่น ข้าวหน้าฟัวกราส์ ราเมงทงคตสึ หรือข้าวหน้าปลาไหลก็อร่อยมาก ๆ ยังมีเมนูแบบเซ็ตให้เลือกสำหรับมื้อกลางวัน ทำให้คุ้มค่าและอิ่มอร่อยในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกเป็นกันเองมาก ๆ ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 63 ราคาเฉลี่ยต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทขึ้นไป
Washoku Aji
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:30–14:30 น. และ 17:00–22:00 น.
- ที่อยู่
78/2 ซ. สุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
21. Hokkaido Genshiyaki
ร้านนี้เป็นร้านอิซากายะเจ้าดังที่มีจุดขายหลักคือการใช้วัตถุดิบสด ๆ จากฮอกไกโดโดยตรง และมีเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ส่วนเมนูที่ต้องลอง ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่าต้องลองเก็นชิยากิ (Genshiyaki) ซึ่งเป็นการย่างปลาแบบโบราณของญี่ปุ่น ที่ทำให้ปลาสุกทั่วถึง เนื้อนุ่มฉ่ำ หนังกรอบ และหอมกลิ่นถ่านเป็นพิเศษ เมนูเด็ดอื่น ๆ ที่เป็นที่พูดถึงไม่ต่างก็คือ ข้าวหน้าทะเลภูเขาไฟ (Seafood Tower Don) ที่โปะปลาดิบสด ๆ มาแบบล้น ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ผสมผสานความญี่ปุ่นกับตะวันตกอย่าง สปาเกตตี้ชีส ที่นำไปคลุกกับชีสก้อนโต ๆ ใครชอบทานชีสพลาดไม่ได้ ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 ส่วนราคาถ้าเป็นเซ็ตมื้อกลางวันจะเริ่มที่ประมาณ 250-500 บาท แต่ถ้าจัดเต็มเมนูปิ้งย่างพรีเมียมหรือเมนูทะเลชุดใหญ่ ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทขึ้นไป
Hokkaido Genshiyaki
- เวลาทำการ
จ.-ศ. 11:00–15:00 น. และ 17:00–23:00 น.
ส.-อา. 11:00–16:00 น. และ 17:00–23:00 น.
- ที่อยู่
83 สุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน klongton, กรุงเทพมหานคร 10110
22. Mitsumori of Tokyo
ร้านนี้คือสวรรค์ของคนรักโซบะ เป็นร้านที่ตนญี่ปุ่นรู้จักกันดี โดดเด่นด้วยเมนูที่ทำเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เส้นโซบะไปจนถึงเมนูย่างถ่าน จุดขายหลักคือ เส้นโซบะทำมือ (Homemade Soba) ที่ทำสดใหม่ทุกวันโดยใช้แป้งโซบะที่เก็บเกี่ยวใหม่จากฮอกไกโด ทำให้ได้เส้นที่มีกลิ่นหอมและรสชาติแท้ ๆ ของโซบะญี่ปุ่น เมนูที่ต้องลองอีกอย่างคือ ยากิโทริ (Yakitori) หรือไก่ย่างเสียบไม้สไตล์จิโดริ (Jidori Yakitori) ที่ย่างบนเตาถ่านจนหอมกรุ่น เนื้อไก่นุ่มฉ่ำสุด ๆ ร้านนี้ให้บรรยากาศที่เงียบสงบและมีสไตล์แบบญี่ปุ่นคลาสสิก เหมาะสำหรับมื้อกลางวันแบบสบาย ๆ หรือมื้อค่ำที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ยังมีเมนูอะลาคาร์ทอื่น ๆ ที่น่าลองอีกเพียบ เช่น ชุดปลาชิมาฮอกเกะย่างถ่าน หรือข้าวหน้าเนื้อ ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคน
Mitsumori of Tokyo
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:30–14:00 น. และ 17:00–21:00 น.
- ที่อยู่
47 1 ซ. สุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
23. Yuna
ร้านอาหารญี่ปุ่นในซอยสุขุมวิท 11/1 ร้านนี้มีเชฟญี่ปุ่นคอยดูแล ทำให้รสชาติอาหารได้มาตรฐาน แถมยังเป็นที่รู้จักกันดีว่าคุณภาพดีเกินราคาไปมาก เมนูอาหารีให้เลือกหลากหลาย มีตั้งแต่ซูชิ ซาชิมิ ไปจนถึงเมนูที่หาทานยากอย่าง โอฉะสึดกะ (Ochazuke) ที่ให้ฟีลเหมือนในซีรีส์ญี่ปุ่นเลย และเมนูที่หลายคนติดใจคือ ทาโกะวาซาบิ (Tako Wasabi) ที่เสิร์ฟมาแบบเย็นเจี๊ยบ สดชื่น ไม่ฉุนวาซาบิเกินไป เหมาะกับการเป็นกับแกล้มมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีโอมากาเสะในราคาเข้าถึงง่ายอีกด้วย รวมถึงมีเซ็ตอาหารกลางวันราคาน่ารัก ๆ ในช่วงกลางวันด้วยนะ ราคาต่อหัวแบบอะลาคาร์ทเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคน ส่วนคอร์สโอมากาเสะจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,500++ บาท
Yuna
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–0:00 น.
- ที่อยู่
155, 18-19 ซอย สุขุมวิท 11/1 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
24. NIKUSHO
ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น (Yakiniku) คุณภาพดีในย่านสุขุมวิท ร้านนี้เป็นร้านยากินิกุสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องการนำเข้าเนื้อวากิว A5 ระดับพรีเมียมมาเสิร์ฟในราคาที่จับต้องได้ แถมยังมีโปรโมชั่นเด็ด ๆ แทบทุกเดือน ถูกใจคนรักเนื้อสุด ๆ เนื้อวากิว A5 ของที่นี่คือตัวท็อป ด้วยลายไขมันแทรกที่สวยงาม เมื่อย่างบนเตาถ่านแล้วจะหอม นุ่ม ฉ่ำ และละลายในปาก เมนูที่ต้องลองคือ Wagyu Maebara Yakisuki เนื้อสไลด์บางย่างแบบสุกี้ยากี้จิ้มกับไข่ดิบ และลิ้นวัวย่างมะนาว ที่รสเปรี้ยวอมหอมตัดเลี่ยนได้ดีมาก นอกจากนี้ยังมีเซ็ตมื้อกลางวันที่ราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อยต้น ๆ แต่คุณภาพเนื้อพรีเมียมเกินราคาไปมาก ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 800-1,200 บาทขึ้นไป
NIKUSHO
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–22:00 น.
- ที่อยู่
12 สุขุมวิท 31 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
25. Tsu Japanese Restaurant
ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่มาพร้อมความหรูหราและการบริการแบบโรงแรม 5 ดาว ร้านนี้ตั้งอยู่ในโรงแรม JW Marriott Bangkok ย่านสุขุมวิท มีดีไซน์สไตล์ญี่ปุ่นร่วมสมัยที่สวยงาม และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของคุณภาพวัตถุดิบและเมนูที่หลากหลาย ที่นี่เค้าเน้นวัตถุดิบคุณภาพสูงส่งตรงจากญี่ปุ่น เมนูเด็ดที่พลาดไม่ได้ก็คือซูชิและซาชิมิที่สดมาก ๆ โดยเฉพาะพวกปลาทูน่า และไข่หอยเม่น ที่บอกเลยว่าหวานละมุนลิ้น นอกจากนี้ยังมีเมนูฟิวชั่นสุดหรูอย่าง ซูชิเนื้อซากะ A5 เบิร์นไฟใส่ไข่หอยเม่น หรือซูชิโรลเนื้อวากิว A5 ห่อฟัวกราส์ ที่ต้องลองให้ได้ ราคาต่อหัวโดยเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป
Tsu Japanese Restaurant
- เวลาทำการ
จ.-ศ. 11:30–14:30 น. และ 17:30–22:00 น.
ส.-อา. 11:30–15:00 น. และ 17:30–22:00 น.
- ที่อยู่
JW Marriott Hotel 4 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
26. Ebisu Shoten
Ebisu Shoten ร้านอิซากายะที่ดังมากเรื่องคุชิคัตสึ (Kushikatsu) หรือของทอดเสียบไม้สูตรต้นตำรับจากโอซาก้า บรรยากาศร้านก็เหมือนยกญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่เป๊ะ ๆ แถมคนญี่ปุ่นในย่านนี้ก็มากินกันเต็มร้านเลยนะ คุชิคัตสึของที่นี่มีให้เลือกหลากหลายเมนูมาก ตั้งแต่เนื้อสัตว์ ซีฟู้ด ไปจนถึงผักต่าง ๆ ชุบแป้งบาง ๆ ทอดมาเหลืองกรอบ ไม่อมน้ำมัน และเคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่ซอสสูตรเฉพาะของร้านนี่แหละ นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อย ๆ อย่างข้าวแกงกะหรี่หมูทอด ราเมง และนาเบะให้เลือกอีกเพียบ ร้านตั้งอยู่ใกล้ BTS พร้อมพงษ์เลย เดินทางสะดวกมาก ๆ และยังมีสาขาอื่น ๆ แถวสุขุมวิทอีกหลายสาขา ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 250-500 บาทต่อคน
Ebisu Shoten
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–5:00 น.
- ที่อยู่
660 662 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
27. Sushi Yorokobu
ร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านสุขุมวิทที่สายโอมากาเสะต้องรู้จัก โดดเด่นด้วยการเสิร์ฟซูชิในสไตล์เอโดะมาเอะแบบต้นตำรับ แต่มีการปรับรสชาติให้กลมกล่อมและถูกปากคนไทยมากขึ้น หัวใจสำคัญของซูชิร้านนี้คือ ข้าว ที่ทางร้านพิถีพิถันหมักด้วยน้ำส้มสายชูแดง (Akazu) พรีเมียมถึง 3 ชนิด ทำให้ข้าวเรียงเม็ดสวย มีกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อมเข้ากันกับปลาดิบแบบสุด ๆ วัตถุดิบที่ใช้ก็คัดสรรมาอย่างดีตามฤดูกาล ทั้งโอโทโร่ (Otoro) ชูโทโร่ (Chutoro) หรือไข่หอยเม่น (Uni) คือคุณภาพระดับพรีเมียมทั้งหมด บรรยากาศก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัวและหรูหรา มีที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์เพียง 10-12 ที่นั่งต่อรอบเท่านั้น ร้านตั้งอยู่ที่อาคาร BlueChips ในซอยสุขุมวิท 55 ราคาคอร์สจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,800++ บาท
Sushi Yorokobu
- เวลาทำการ
ทุกวัน 12:00–14:00 น. และ 16:00–22:00 น.
- ที่อยู่
10 ถ. ทองหล่อ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
28. Tonsei Japanese Restaurant
ทงเซอิ (Tonsei) ร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกแถว แต่เปิดให้บริการมานานกว่า 40 ปีแล้ว เป็นที่รู้กันดีในหมู่คนญี่ปุ่นว่ารสชาติเป็นกันเองและราคาไม่แพง ร้านนี้เน้นเมนูอาหารญี่ปุ่นแบบโฮมเมด ที่รสชาติถูกปากและราคามิตรภาพ เมนูที่หลายคนติดใจคือ เกี๊ยวซ่า ที่ทอดมากรอบนอกนุ่มใน รสชาติดีถูกใจมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูของทอดและเมนูเซ็ตต่าง ๆ ให้เลือกเยอะแยะจุใจ ถึงแม้จะเป็นร้านเล็ก ๆ แต่มีที่นั่งถึง 3 ชั้น บรรยากาศภายในร้านให้ฟีลญี่ปุ่นแบบเก่า ๆ ที่ดูอบอุ่นและเป็นกันเองมาก ๆ ที่นี่มีน้ำชาฟรีบริการให้ด้วยนะ ร้านตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้ซอย 24/1 หรือซอย 26 ส่วนราคาก็เป็นมิตรสุด ๆ ตกอยู่ที่ประมาณ 200-300 บาทต่อคน
Tonsei Japanese Restaurant
- เวลาทำการ
จ.-ส. 11:00–14:00 น. และ 17:00–22:00 น.
อา. 11:00–22:00 น.
- ที่อยู่
11 สุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
29. Sho Japanese dining
อีกหนึ่งในร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสุขุมวิท ที่ตอบโจทย์ทั้งมื้อกลางวันแบบฟิน ๆ และมื้อค่ำสำหรับสายแฮงค์เอาท์ ที่นี่เค้ามีเมนูให้เลือกเยอะมาก ไม่ใช่แค่ซูชิหรือซาชิมิธรรมดา แต่มีทั้งเมนูฟิวชั่นอย่าง ซูชิ เมนูกระทะร้อนคุณภาพพรีเมียม ข้าวหน้าปลาดิบที่ทางร้านให้มาแบบจัดเต็ม และเมนูที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ที่สำคัญคือวัตถุดิบส่วนใหญ่ถูกส่งตรงมาจากญี่ปุ่น ทำให้มั่นใจได้ในเรื่องความสดใหม่และคุณภาพระดับพรีเมียม ร้านตั้งอยู่ในโครงการ Vibes Ekkamai ในซอยสุขุมวิท 63 ราคาอาหารโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป
Sho Japanese dining
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–14:30 น. และ 17:00–22:00 น.
- ที่อยู่
Vibes 267/13 ซ. สุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
30. ISAO
อิซาโอะ (Isao) ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดฮิตที่ต้องไปต่อคิวยาว ๆ ในซอยสุขุมวิท 31 ร้านนี้เป็นตำนานของซูชิสไตล์ฟิวชั่น ที่ไม่ได้เน้นแค่ปลาดิบแบบดั้งเดิม แต่สร้างสรรค์เมนูโรลจนโด่งดังเป็นพลุแตก เมนูซิกเนเจอร์ที่ทุกคนต้องสั่งคือ Jackie โรลที่ทำเป็นรูปหนอนน่ารัก ๆ ไส้กุ้งเทมปุระ และ Crunchy โรลกุ้งเทมปุระคลุกเกล็ดเทมปุระกรอบ ๆ รวมถึง Volcano ซูชิหน้าปลาแซลมอนเผาไฟราดซอสที่อร่อยจนแสงออกปาก นอกจากโรลแล้วยังมีเมนูอะลาคาร์ทและข้าวหน้าต่าง ๆ ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดีอีกเพียบเลยนะ ราคาอาหารก็ถือว่าสมเหตุสมผลสำหรับคุณภาพและชื่อเสียงของร้าน อยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคน
ISAO
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–14:30 น. และ 17:00–21:30 น.
- ที่อยู่
5 สุขุมวิท 31 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
31. Tensui
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 16 บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น มีสวนสไตล์ญี่ปุ่นสวย ๆ ล้อมรอบ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัวสุด ๆ ร้านนี้เชี่ยวชาญในอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับแท้ ๆ โดยเฉพาะอาหารไคเซกิ (Kaiseki) อาหารที่เน้นความประณีตตามฤดูกาล และเมนูซูชิ ซาชิมิ ที่ปลาสดหวานมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีเซ็ตอาหารกลางวันที่คุ้มค่าสุด ๆ ร้านยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่น ๆ ให้ลองอีกเพียบตั้งแต่ราเมง ข้าวอบหม้อ (Kamameshi) ไปจนถึงชาบูชาบูเนื้อวากิวพรีเมียม และที่สำคัญคือ ของหวานปิดท้ายมักจะเป็นเมล่อนญี่ปุ่นที่หวานฉ่ำอร่อยมาก ๆ จนหลายคนติดใจ ร้านเปิดบริการเป็น 2 ช่วง คือมื้อกลางวันและมื้อเย็น ส่วนราคาอาหารจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาท แต่ถ้าสั่งเป็นคอร์สไคเซกิ หรือโอมากาเสะราคาจะสูง อยู่ที่ประมาณณ 3,000 บาทขึ้นไป
Tensui
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:30–14:00 น. และ 17:30–22:00 น.
- ที่อยู่
33 ซ. สุขุมวิท 16 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
32. SOUSAKU
ร้านนี้ดังมากเรื่องชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์คันไซแท้ ๆ แถมบรรยากาศร้านก็ดีงามสุด ๆ เพราะตกแต่งเหมือนบ้านญี่ปุ่นดั้งเดิม มีสวนเซนให้มองเพลิน ๆ ระหว่างทานอาหารด้วย สุกี้ยากี้สไตล์คันไซ ต่างจากสไตล์อื่นตรงที่จะเริ่มจากการผัดเนื้อกับซอสสุกี้ยากี้ก่อนจะเติมน้ำซุปตามลงไป ทำให้เนื้อได้รสชาติเต็ม ๆ คำ เมนูเนื้อวากิวก็มีให้เลือกทั้ง A4 หรือเนื้อออสเตรเลียคุณภาพดี ส่วนใครชอบชาบูน้ำใสก็มีน้ำซุปดาชิกลมกล่อมให้เลือก นอกจากชาบูสุกี้แล้ว ที่นี่ยังมีเมนูซูชิและซาชิมิที่สดใหม่ รวมถึงเมนูฟิวชั่นอีกมากมาย ร้านมีหลายสาขามาก สาขาที่อยู่ในย่านสุขุมวิทจะตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 42 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 700-1,200 บาท
SOUSAKU
- เวลาทำการ
จ.-ศ. 11:00–16:00 น. และ 17:00–22:00 น.
ส.-อา. 11:00–22:00 น.
- ที่อยู่
สุขุมวิท 42 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
33. Masu Maki & Sushi Bar
ร้านนี้ดังมากในหมู่คนไทยและชาวต่างชาติ มีเมนูโรลอร่อย ๆ ให้เลือกเยอะจนตาลาย เมนูซิกเนเจอร์ที่ควรค่าแก่การลองคือ Beauty and the Leaf มากิช่อดอกไม้ที่อัดแน่นด้วยหอยเชลล์ แซลมอน และอโวคาโด หรือ Masu S.P.I.C.Y Maki ที่สีสันจัดจ้าน แต่รสชาติกลมกล่อม ที่นี่ไม่ได้มีแค่ปลาดิบนะ ยังมีโรลและซูชิสำหรับคนทานมังสวิรัติให้เลือกด้วย ตอบโจทย์คนทุกกลุ่มเลย ที่นี่ยังมีซุปมิโซะให้ได้ทานฟรีด้วย ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 500-1,000 บาทต่อคน
Masu Maki & Sushi Bar
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–21:30 น.
- ที่อยู่
ซ. สุขุมวิท 39 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
34. Kisso Japanese Restaurant
ห้องอาหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในโรงแรม The Westin Grande Sukhumvit ร้านนี้ได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยนะ ที่นี่เน้นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่พิถีพิถัน โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่นำเข้าจากญี่ปุ่นเป็นหลัก เมนูที่คนญี่ปุ่นชอบสั่งกันมากคือ Kisso Bento Box สำหรับมื้อกลางวัน ที่จัดมาอย่างประณีตครบเครื่องทั้งซาชิมิ ปลาย่าง ไข่ตุ๋น และของทอด ส่วนเมนูอะลาคาร์ทก็มีทั้งซาชิมิชิ้นหนาเต็มคำ และเมนูเนื้อวากิว A4 ย่างถ่านที่หอมนุ่มละลายในปาก นอกจากเมนูอะลาคาร์ท ยังมีบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นให้บริการเฉพาะมื้อกลางวันวันเสาร์และอาทิตย์ด้วยนะ ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000-3,000 บาทขึ้นไป
Kisso Japanese Restaurant
- เวลาทำการ
ทุกวัน 12:00–14:30 น. และ 18:00–22:30 น.
- ที่อยู่
259 ซอย สุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
35. Izakaya Mori House
ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ให้บรรยากาศแตกต่างจากอิซากายะทั่วไป โดยเฉพาะความเป็นกันเอง สบาย ๆ ของร้าน ร้านนี้มีเชฟที่มาจากฟุกุโอกะ ทำให้เมนูอาหารที่นี่มีกลิ่นอายของอาหารญี่ปุ่นทางใต้ มีรสชาติเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เมนูที่น่าลองคือจิราชิด้ง (Chirashi Don) ที่อัดแน่นด้วยปลาดิบหลากหลายชนิดแบบคุ้มค่า และเมนูโอเด้ง (Oden) น้ำซุปกลมกล่อม รวมถึงเมนูสไตล์อิซากายะอื่น ๆ ที่เหมาะกับการสั่งมากินแกล้มกับเครื่องดื่ม ใครที่ชอบอาหารญี่ปุ่นรสชาติแบบโฮมมี่ ราคาไม่แรง บรรยากาศไม่วุ่นวาย ร้านนี้เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์มาก ๆ ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 71 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาท
Izakaya Mori House
- เวลาทำการ
ทุกวัน 17:00–0:00 น.
- ที่อยู่
233 ถ. สุขุมวิท 71 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
36. Yankii Robatayaki & Bar
ร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านสุขุมวิท ที่มีบรรยากาศคึกคัก สนุกสนาน และเน้นเมนูย่างถ่านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เรียกว่า โรบาตะยากิ (Robatayaki) เสน่ห์ของร้านนี้คือบรรยากาศสไตล์อิซากายะสุดฮิป ที่ตกแต่งผสมผสานวัฒนธรรมสตรีทญี่ปุ่นเข้ากับกลิ่นอายย้อนยุค แต่ที่เด็ดจริงคือเมนูย่า สามารถนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์เพื่อชมเชฟย่างวัตถุดิบชั้นเลิศแบบสด ๆ ตรงหน้า แล้วเสิร์ฟผ่านไม้พายยาว ๆ อย่างพิถีพิถัน เมนูที่ต้องสั่งคือ สเต็กวากิวย่างถ่านที่เนื้อนุ่มละมุนลิ้น และเมนูยากิโทริ หรือคุชิยากิอื่น ๆ ที่หมักเครื่องเทศมาอย่างดี ร้านแบ่งเป็น 2 โซน คือชั้นล่างที่เป็นบาร์ค็อกเทลแสงสลัว ๆ เหมาะกับการมานั่งดื่มเงียบ ๆ และชั้นบนที่เป็นโซนร้านอาหารพร้อมครัวเปิดสุดคึกคัก ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น G ของโรงแรม Skyview Hotel Bangkok ในซอยสุขุมวิท 24 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 บาทขึ้นไป
Yankii Robatayaki & Bar
- เวลาทำการ
ทุกวัน 18:00–1:00 น.
- ที่อยู่
12 ซ.สุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
37. Aburi ISHIDA
ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะในย่านสุขุมวิท ที่เป็นที่รู้กันดีในหมู่คนญี่ปุ่นว่ามีเมนูยากิโทริ (Yakitori) ที่รสชาติดีแบบออริจินัลสุด ๆ จุดขายของร้านก็คือยากิโทริที่ได้พูดไป รวมถึงของย่างต่าง ๆ ที่ย่างด้วยเตาถ่านจนหอมกรุ่น เนื้อสัตว์และเครื่องในต่าง ๆ ที่นี่ใช้ของสดใหม่และปรุงรสมาอย่างลงตัว เมนูที่แนะนำสุด ๆ คือ สึคุเนะ ตับไก่ลวก และหมูพันหน่อไม้ฝรั่ง ที่เป็นกับแกล้มชั้นดี นอกจากนี้ยังมีเมนูฟิวชั่นที่อร่อยจนต้องซ้ำอย่าง สปาเก็ตตี้ต่าง ๆ ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 51 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 800-1,000 บาทขึ้นไป
Aburi ISHIDA
- เวลาทำการ
ศ.-ส. 17:30–23:30 น.
จ.-พฤ.,ส. 17:30–23:00 น.
- ที่อยู่
99, แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
38. Kenshin Izakaya Sukhumvit 33
ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์อิซากายะสุดคึกคักที่เหมาะกับการมาแฮงค์เอาท์หลังเลิกงานในย่านสุขุมวิท เป็นร้านยอดฮิตของพนักงานออฟฟิศและคนญี่ปุ่น เพราะให้บรรยากาศเหมือนหลุดไปอยู่ในร้านกินดื่มในโตเกียว แถมราคาก็ไม่แรงมากด้วยนะ ที่นี่เมนูเยอะมาก จุดขายคือเมนูเสียบไม้ย่างต่าง ๆ (Yakitori/Kushiyaki) ที่ราคาเริ่มต้นแค่หลักสิบ แถมย่างมาหอม ๆ เนื้อนุ่ม ๆ เมนูเด็ดที่ต้องลองคือ ปลาซาบะดองลนไฟ ที่พนักงานจะมาลนไฟให้ดูถึงโต๊ะ นอกจากนี้ยังมีมันปูย่าง เกี๊ยวซ่า และเมนูซูชิโรลต่าง ๆ ที่มีให้เลือกครบครัน นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มหลายแบบให้เลือก ทั้งเบียร์สดเย็น ๆ และซาว่า (Sawa) รสชาติต่าง ๆ และที่สำคัญคือที่นี่ไม่มีการคิดค่า VAT และ Service Charge เพิ่มด้วย ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาทต่อคน
Kenshin Izakaya Sukhumvit 33
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–0:00 น.
- ที่อยู่
575 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
39. Umeshuthai Sukhumvit 45
ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่ชื่อ เพราะที่นี่เป็นเหมือนบาร์เหล้าบ๊วย (Umeshu Bar) ที่รวบรวมเหล้าบ๊วยหลากหลายชนิดไว้ให้เลือกเยอะที่สุดในไทยเลยก็ว่าได้ ที่ห้ามพลาดก็คือบุฟเฟต์เหล้าบ๊วย (Umeshu Buffet) ที่จะจัดโปรโมชั่นพิเศษปีละครั้ง ให้ได้ลองชิมเหล้าบ๊วยและเหล้าผลไม้ญี่ปุ่นกว่า 14 ชนิดแบบไม่อั้นในราคาสุดคุ้ม ส่วนเมนูอาหารก็ไม่น้อยหน้า เน้นวัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่นที่สดใหม่ โดยเฉพาะ ซาชิมิแซลมอน ที่ว่ากันว่าสดหวานมาก รวมถึงเมนูเด็ดอย่าง Rare Cheesecake และของหวานอย่างเมล่อนเย็นฉ่ ที่เสิร์ฟปิดท้ายมื้ออาหาร ร้านตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ใกล้ซอยสุขุมวิท 45 ราคาต่อหัวจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาทขึ้นไปต่อคน
Umeshuthai Sukhumvit 45
- เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00–2:00 น.
- ที่อยู่
835 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
40. SUSHI RIN
SUSHI RIN ร้านซูชิในย่านสุขุมวิท ตั้งอยู่บนตึก RSU Tower ปากซอยสุขุมวิท 31 เป็นที่รู้กันดีในหมู่คนญี่ปุ่นว่ารสชาติอาหารและคุณภาพความสดของปลาไม่เป็นสองรองใคร ที่นี่มีเมนูให้เลือกหลากหลายมาก ทั้งแบบอะลาคาร์ท และแบบโอมากาเสะที่ราคาเข้าถึงได้ จุดเด่นคือปลาที่สดมาก ๆ และเมนูโอมากาเสะที่คุณภาพวัตถุดิบดีงามมาก อร่อยและคุ้มค่าสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูที่น่าสนใจอื่น ๆ อย่าง Mini Maguro Aji Don to Mini Inaniwa Udon ข้าวหน้ามากุโระและปลาอาจิ กับอินานิวะอุด้งอุ่น ๆ กลิ่นหอมกรุ่น เป็นเมนูอร่อยที่ต้องลองเลย ร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีที่นั่งทั้งแบบเคาน์เตอร์บาร์สำหรับดูเชฟปั้นซูชิ และห้องส่วนตัวให้บริการด้วย หากสั่งเป็นเมนูอะลาคาร์ทจะตกอยู่ที่ประมาณ 400-600 บาท แต่ถ้าเป็นคอร์สโอมากาเสะจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2,700++ บาท ขึ้นไป
SUSHI RIN
- เวลาทำการ
จ.-ศ. 11:30–14:00 น. และ 18:00–22:00 น.
ส.-อา. 11:30–14:00 และ 17:30–21:30 น.
- ที่อยู่
571 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
บทความแนะนำ
-
- ทองหล่อ
- บทความพิเศษ
20 ร้านซูชิ (Sushi) ทองหล่อที่ต้องไปลอง โอมากาเสะพรีเมียม และอะลาคาร์ทสุดคุ้ม
13.11.2025
-
- กรุงเทพฯ
- บทความพิเศษ
25 ร้านเนื้อวากิว (Wagyu) พรีเมียมในกรุงเทพฯ ที่สายเนื้อต้องปักหมุด
11.11.2025
-
- กรุงเทพฯ
- บทความพิเศษ
15 ร้านเมนูดงบุริ (Donburi) ข้าวด้งหน้าล้น อร่อยฟินจนต้องซ้ำ
11.11.2025
-
- กรุงเทพฯ
- บทความพิเศษ
15 ร้านอร่อยเมนูโอเด้ง (Oden) ซดซุปหอมๆ ฟินเหมือนอยู่ญี่ปุ่น
10.11.2025
-
- กรุงเทพฯ
- บทความพิเศษ
10 ร้าน เมนูทาโกะยากิ (Takoyaki) เมนูสุดคลาสสิคที่คออาหารญี่ปุ่นห้ามพลาด
10.11.2025
-
- นานา
- บทความพิเศษ
12 ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านนานา เด็ดจริงจนต้องบอกต่อ
05.11.2025